“จาตุรนต์-นปช.ซบ “ไทยรักษาชาติ” กัน คสช.สืบทอดอำนาจ

2018-11-19 16:35:14

“จาตุรนต์-นปช.ซบ “ไทยรักษาชาติ” กัน คสช.สืบทอดอำนาจ

Advertisement

แกนนำ พท.-นปช. ตบเท้าสมัครสมาชิก ทษช. “จาตุรนต์” ยันไม่ได้ขัดแย้ง พท.  แต่เกิดจากปัญหารัฐธรรมนูญ ต้องการหนีกับดักเพิ่มโอกาสฝ่ายประชาธิปไตย หวังได้ 250 เสียง ป้องกัน คสช. สืบทอดอำนาจ ด้าน"ณัฐวุฒิ" ยันไม่ยุบ นปช.


เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ที่พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค ให้การต้อนรับสมาชิกที่มาสมัครเป็นสมาชิก ทษช. อาทิ นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา นายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย,นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีต รมว.ศึกษาธิการ น.ส.อนุตตมา อมรวิวัฒน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี นางฐิติมา ฉายแสง อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำโดย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ


นายจตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้ลาออกจากพรรคเพื่อไทยเพราะมีความขัดแย้งกับแกนนำพรรคหรือใครในพรรค ไม่ได้มีปัญหาความแตกต่างทางอุดมการณ์หรือนโยบาย แต่คิดว่าจะทำอย่างไรในสถานการณ์ที่ประเทศอยู่ในหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างฝ่ายเผด็จการที่ต้องการสืบทอดอำนาจกับฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งโจทย์ของเราคือจะหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจได้อย่างไร หากหยุดยั้งไม่ได้ ประเทศไทยอาจตกอยู่ภายใต้คสช. 10-20 ปี ทั้งนี้ นักการเมืองบางคนถึงกับประกาศว่ารัฐธรรมนูญนี้ถูกออกแบบมาเพื่อพวกเขา ขณะที่พรรคการเมืองใหญ่ถูกสกัดไม่ให้มีเสียงข้างมาก การออกแบบเช่นนี้เหมือนกับเจาะจงให้มีผลต่อพรรคการเมืองใหญ่โดยเฉพาะ เป็นประตูกลเป็นกับดักที่เล่นงานพรรคการเมืองใหญ่ ทำให้เกิดผลเสียต่อฝ่ายประชาธิปไตย เมื่อเรารู้เท่าทันในรัฐธรรมนูญและหมากกล เราจึงเชื่อว่าสามารถทำให้พรรคการเมืองพ้นและฝ่าจากกับดักนี้ไปได้ ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มโอกาสของฝ่ายประชาธิปไตย ลดโอกาสที่เขาจะสืบทอดอำนาจ


นายจาตุรนต์ กล่าวอีกว่า เหตุผลที่มาร่วมงานกับ ทษช. เนื่องจากหัวหน้าพรรคได้มาเชิญ และได้ร่วมหารือแล้วเห็นได้ชัดว่าพรรคนี้มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยตรงกัน จึงตัดสินใจมา ซึ่งที่ย้ายมาไม่ใช่เพราะหนีกับดักส่วนตัว แต่ต้องการพัฒนาบ้านเมืองด้วยวิสัยทัศน์ใหม่ๆ เพื่อให้พรรคนี้เป็นยาพาหนะที่ทำให้พรรค นักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยหลีกเลี่ยงกับดักที่ออกแบบไว้ เพื่อไปสู่จุดหมายปลายทางที่จะพัฒนาประเทศชาติร่วมกัน โดยพรรคฝ่ายประชาธิปไตยต้องตั้งเป้าให้ได้ 251 เสียงขึ้นไป

ด้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวยืนยันว่า การร่วมงานกับ ทษช.ในครั้งนี้ เพื่อต่อสู้กับระบบการสืบทอดอำนาจด้วยวิถีทางประชาธิปไตย ยืนยันว่า จะยังคงมีกลุ่ม นปช. อยู่ต่อไป ไม่สามารถสลายตัวได้ เพราะ นปช. เป็นองค์กรที่เกิดจากการต่อสู้ของประชาชน ยังมีภาระหน้าที่ เรียกร้องความยุติธรรมต่อไป ซึ่งจะไม่มีอำนาจหน้าที่ทับซ้อนกัน แกนนำ นปช. จะไม่มีการตั้งพรรคการเมืองในนาม นปช. ส่วนสมาชิกคนใดจะไปสังกัดพรรคใด ก็ถือเป็นสิทธิส่วนตัว แต่ถ้าใครสนับสนุนเผด็จการ ก็ถือว่าขาดกัน ส่วนนายจตุพร ก็จะไปสนับสนุนพรรคเพื่อชาติ

นายณัฐวุฒิ ยังบอกด้วยว่า เมื่อมาเป็นสมาชิก ทษช.แล้ว ก็จะทำวิถีทางให้ทุกกลุ่มทุกฝ่ายที่สนับสนุน วิถีทางประชาธิปไตยโดยเฉพาะกลุ่ม นปช. ไว้วางใจและมอบคะแนนเสียงให้