จำนวนประชาชนที่ถูกขึ้นบัญชีผู้สูญหาย จากไฟป่าทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เพิ่มเป็น 1,276 คน เมื่อวันเสาร์ตามเวลาในสหรัฐ ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตทั่วรัฐเพิ่มขึ้นเป็น 76 ราย
นายคอรี โฮเนีย นายอำเภอเขตปกครองบัตตี เคาน์ตี เผยเมื่อวันศุกร์ (16 พ.ย.) ว่า จำนวนผู้สูญหายจากไฟป่า ในพื้นที่ทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย เพิ่มเป็น 1,276 คน แล้วเมื่อวันเสาร์ ซึ่งทั้งหมดยังไม่ทราบชะตากรรม แต่ก็ยังมีข่าวดีว่า ประชาชน 329 คนที่ถูกบันทึกเป็นผู้สูญหาย ตั้งแต่ไฟป่า "แคมป์" เริ่มไหม้ลามเมื่อคืนวันที่ 8 พ.ย. ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่ายังมีชีวิตอยู่ และปลอดภัย
เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิง พบผู้เสียชีวิตจากไฟป่าอีก 5 ศพเมื่อวันเสาร์ในพื้นที่แคลิฟอร์เนียเหนือ ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 76 ราย จากไฟป่าแคมป์ ที่นับว่ารุนแรงที่สุดและสร้างความเสียหายมากที่สุด ในประวัติศาสตร์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย
เจ้าหน้าที่เผยว่า ประชาชนอพยพออกจากบ้านเรือน 47,200 คน และเกือบ 1,200 คนในจำนวนดังกล่าวยังอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวของทางการ และล่าสุดเมื่อวันศุกร์เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมไฟได้ประมาณ 50 % แล้ว ขณะที่ เจ้าหน้าที่หลายร้อยคน ทั้งทหารจากกองกำลังพิทักษ์ชาติ, นักมานุษยวิทยา และทีมพิสูจน์หลักฐาน ต่างช่วยกันค้นหาเหยื่อเพิ่มเติมจากซากอาคารบ้านเรือนและรถยนต์ที่เหลือแต่ซากกระจัดกระจายในพื้นที่ต่าง ๆ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เดินทางลงพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายเมื่อวันเสาร์ โดยมีเจอร์รี บราวน์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย และกาวิน นิวซอม ผู้ว่าการรัฐคนใหม่ที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้ง เดินทางไปกับทรัมป์ด้วย ทรัมป์ให้คำมั่นสัญญาว่าจะระดมทรัพยากรของรัฐบาลกลางช่วยเหลือรัฐแคลิฟอร์เนียให้ฟื้นตัวจากไฟป่าครั้งเลวร้ายครั้งนี้ “นี้เป็นความเศร้ามากที่ได้เห็น แต่พวกเราก็จะกลับมาทำงานร่วมมือกัน
ขณะนี้ ไฟป่า แคมป์ ในเมืองพาราไดส์ ทำลายสิ่งปลูกสร้างไปแล้วประมาณ 13,000 หลัง เผาผลาญพื้นที่ไปประมาณ 149,000 เอเคอร์ หรือ 376,970 ไร่ ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะที่ ไฟป่า วูลซี ในแคลิฟอร์เนียใต้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย หลังเผาผลาญพื้นที่ไปแล้วประมาณ 98,000 เอเคอร์ หรือ 247,940 ไร่ แต่สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้แล้วขณะนี้ ร้อยละ 82 ทำลายสิ่งปลูกสร้างไปอย่างน้อย 836 หลัง
