สบส.ล้อมคอก รพ.-คลินิก หลังหมอข่มขืนคนไข้

2018-11-16 13:25:40

สบส.ล้อมคอก รพ.-คลินิก หลังหมอข่มขืนคนไข้

Advertisement

อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ย้ำ รพ. คลินิก เข้มมาตรฐานความปลอดภัยสถานที่ จัดเจ้าหน้าที่ให้เหมาะสมไม่ปล่อยผู้ป่วยหญิงอยู่สองต่อสองกับเจ้าหน้าที่ชาย

จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อโซเชียล ว่ามีแพทย์รายหนึ่งได้ล่วงละเมิดทางเพศคนไข้หญิงขณะตรวจภายใน ณ คลินิกแห่งหนึ่ง ใน จ.นครสวรรค์ นั้น

เมื่อวันที่ 16 พ.ย. นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ( สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อได้รับทราบข้อมูลข้างต้น สบส.มีความเป็นกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิด ดังนั้นเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยแก่ผู้รับบริการ รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นต่อสถานพยาบาลไทยขอย้ำให้ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลทุกแห่งดูแล มาตรฐาน การให้บริการและของสถานที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการให้บริการทางการแพทย์ในพื้นที่ปิดมิดชิด อย่างห้องตรวจโรค หรือห้องเอ็กซเรย์ จะต้องมีมาตรการดูแลความปลอดภัย และกำชับให้บุคลากรปฏิบัติตามมาตรฐานดังกล่าว อาทิ ติดตั้งกริ่งแจ้งเตือนที่ผู้รับบริการสามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลา จัดให้มีเจ้าหน้าที่ทั้งหญิงและชายให้บริการเพื่อความเหมาะสม หรือจัดให้มีเจ้าหน้าที่ท่านอื่นอยู่ในบริเวณใกล้เคียงเพื่อให้การช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงทีในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ยิ่งในกรณีผู้ป่วยหญิงไม่ควรปล่อยให้ผู้ป่วยอยู่สองต่อสองกับเจ้าหน้าที่ชาย หาก สบส.หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพบว่าผู้ดำเนินการสถานพยาบาลปล่อยปละละเลยไม่ควบคุมดูแลสถานพยาบาลให้สะอาด เรียบร้อย ปลอดภัย และมีลักษณะอันเหมาะสมแก่การใช้เป็นสถานพยาบาล ตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 กำหนด จะดำเนินการลงโทษตามกฎหมายโดยไม่มีการละเว้นแต่อย่างใด

ด้าน ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ ผอ.สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กล่าวว่า สำหรับ ความผิดที่เกิดขึ้นจากการล่วงละเมิดทางเพศผู้ป่วยจะแยกออกเป็น 3 ประเด็น คือ 1. เป็นความผิดด้านอาญาเฉพาะตัวของกระทำผิดซึ่งเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2.ความผิดในด้านจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพซึ่งสภาวิชาชีพจะเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบ และ 3.ความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 มาตรา 34 (4) ไม่ควบคุม ดูแลสถานพยาบาลให้สะอาด เรียบร้อย ปลอดภัย และมีลักษณะเหมาะสม ทั้งนี้ สถานพยาบาลทุกแห่งต้องรักษาคุณภาพมาตรฐานให้ครบทั้ง 5 ด้าน ตามที่กฎหมายกำหนด คือ 1.ด้านสถานที่ ต้องสะอาด 2.ด้านผู้ให้บริการ จะต้องมีใบประกอบวิชาชีพที่ถูกต้องตามกฎหมาย 3.ด้านการบริการ ต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด 4.ด้านยา เวชภัณฑ์ ต้องขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และ5.ด้านความปลอดภัยของผู้ป่วยในภาวะฉุกเฉิน รวมทั้งจุดที่สุ่มเสี่ยงจะต้องมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอดเวลา และจัดเจ้าหน้าที่ให้เหมาะสมกับการดูแลผู้ป่วย