กรมอุตุนิยมวิทยาระบุ ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ ส่วนภาคใต้ตอนล่างมีฝนฟ้าคะนองมากกว่าภาคอื่นๆ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย
เมื่อวันที่ 16 พ.ย. กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ ส่วนภาคใต้ตอนล่างมีฝนฟ้าคะนองมากกว่าภาคอื่นๆ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย
อนึ่ง ผู้ที่จะเดินทางไปประเทศศรีลังกาและประเทศอินเดียตอนล่าง ขอให้ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางด้วยเนื่องจากมีพายุไซโคลน“คชะ” อยู่ใกล้บริเวณดังกล่าว พายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อสภาพอากาศของประเทศไทย
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา บริเวณความกดอากาศสูงกำลังอ่อนจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้ ส่งผลให้ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ สำหรับลมตะวันออกยังคงพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนฟ้าคะนองมากกว่าภาคอื่นๆ
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 วันนี้ ถึง 06.00 วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-16 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.เลย หนองคาย อุดรธานี และบึงกาฬ อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี และชัยนาทอุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
กทม.และปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส