จบความสัมพันธ์ไปแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยจนหลายคนงงว่าสาเหตุที่ทำให้ "ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์" กับ "ท็อป-จรณ โสรัตน์" เลิกกันมาจากสาเหตุอะไร ล่าสุด เจอสาวใบเฟิร์นเลยสอบถามถึงเรื่องนี้ได้ความว่า
สภาพจิตใจตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?
โอเคค่ะ ก่อนหน้านี้ที่เห็นไปเที่ยวก็ไม่ได้เป็นการปลอบประโลมหัวใจ ตัวเราอาจจะไม่ทันคิดว่าต้องไปเที่ยวหรือทำอะไร แต่เฟิร์นโชคดีที่ครอบครัวและผู้จัดการนำเสนอว่าไปเที่ยวโน่นนี่กันเพื่อให้สบายใจ
ตั้งแต่ออกมาให้สัมภาษณ์ครั้งก่อนหน้านั้น เราได้คุยกับท็อปหรือยัง ?
ยังไม่ได้คุยค่ะ จริงๆ ไม่ได้คิดจะปล่อยให้ความสัมพันธ์มันห่างไปแบบนี้ เพราะเฟิร์นคุยกับพี่เขาอย่างเข้าใจและจบแล้ว
หลายคนยังงงว่าทำไมอยู่ดีๆ ถึงห่างกัน ?
หลายคนจะมองว่าจบปึ้ง จริงๆ มันก็ไม่ได้ปึ้งขนาดนั้น เพราะมันก็เป็นเรื่องที่เราทบทวน แล้วก็คุยกันจนถึงวันที่ตัดสินใจว่าจะเป็นแบบนี้ด้วยความเข้าใจของทั้งคู่ ปัญหาที่มีเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับทุกคู่ อย่างที่บอกพอได้คุยกันก็มองเห็นปัญหาและเห็นความจริงว่าเป็นแบบนี้ เราเองก็อาจจะต้องเติบโต ต้องเข้าใจ และเรียนรู้กันไป
เกี่ยวกับความขี้หึงของเขาด้วยไหม ?
ไม่เลยค่ะ
ปัญหาเกิดจากตัวเราหรือว่าทางผู้ชาย ?
เฟิร์นไม่อยากให้มีการโทษกัน ไม่อยากให้มีใครสักคนเป็นเหยื่อในความสัมพันธ์ แล้วก็ไม่อยากให้ออกมาพูดแล้วคนนั้นผิดคนนี้ผิด สิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่มีใครถูกผิดหรอก ทุกคนก็เจอกันเรียนรู้และโตขึ้นแค่นั้นเอง
ใช่ปัญหาเรื่องของมือที่สามไหม ?
เรื่องมือที่สามไม่มีแน่นอนค่ะ ก่อนหน้าเห็นมีไปถามมาร์ช จุฑาวุฒิ กัน สงสารนางมากเลย จนเฟิร์นต้องไลน์ไปขอโทษเขาด้วยเพราะเกรงใจ จริงๆ มาร์ชคือเพื่อนคนหนึ่งที่สนิทกัน แล้วเขาก็ไม่ฟ้องเฟิร์นด้วยนะว่าโดนสัมภาษณ์เรื่องนี้ คือเฟิร์นเห็นจากข่าวเอง เอาจริงๆ ไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะมีคนคิดว่าเป็นมาร์ชด้วยซ้ำ ยืนยันว่ากับมาร์ชไม่มีทางแน่นอน เขาคือเพื่อนสนิทเฟิร์นเลยค่ะ
โดนโยงไปที่ ‘นาย-ณภัทร’ ว่าแอบคบกันด้วย ?
ไม่มีทางเลยค่ะ เฟิร์นต้องขอโทษทั้งน้องนายและแม่หมูเลยที่ทำให้เป็นข่าว แต่ว่าทุกคนก็เข้าใจและไม่ซีเรียส สำหรับความสนิทกับน้องนายก็เริ่มสนิทกันเพราะว่าถ่ายหนังด้วยกัน ซึ่งหนังจะใช้คิวเยอะ แล้วในเรื่องต้องเล่นเป็นเพื่อนสนิทกันด้วย ที่สำคัญถ่ายหนังเหนื่อยมากไม่มีเวลาไปกุ๊กกิ๊กกันแน่นอน ตอนนี้ถ่ายหนังเสร็จเรียบร้อยแล้วและไม่มีการนัดเจอนอกรอบแน่นอน ถ้าเจอกันก็จะเป็นคิวพี่ถ่ายโปสเตอร์หนัง ถ่ายเบื้องหลัง ซึ่งเป็นงานทั้งหมด
มีคอมเมนต์ว่าเห็นเรากับน้องนายเดินเที่ยวกันที่ฮ่องกง ?
อันนั้นไปถ่ายหนังค่ะ ส่วนที่บอกว่าระหว่างนั้นไม่มีกองถ่ายอะไรทั้งสิ้น เฟิร์นว่าอาจจะเป็นช่วงที่เราไปซื้อชาไข่มุกหรือเปล่า(หัวเราะ) ยืนยันว่าไปถ่ายหนังค่ะไม่มีอะไรเลย ถามว่าหลังจากนี้ทำให้เราวางตัวลำบากมากขึ้นไหมเพราะเดี๋ยวจะต้องมีการโปรโมตหนังด้วยกันอีก ตอนแรกก็มีความรู้สึกกังวลบ้าง แต่พอมีโอกาสไปขอโทษน้องกับคุณแม่แล้ว ซึ่งทุกคนเข้าใจว่าเป็นเรื่องปกติทำให้เฟิร์นรู้สึกสบายใจขึ้นมากๆ เลยคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
คนที่มาคอมเมนต์แท็กไปให้ท็อปด้วย กลัวเขาจะเข้าใจผิดไหม ?
ไม่นะคะ อย่างที่เฟิร์นบอกแหละว่าพี่เขารู้ดีที่สุดว่าเรื่องทั้งหมดคืออะไร
รู้สึกยังไงที่บางคนเข้าใจผิดว่าเราเป็นฝ่ายมีคนอื่นก่อน ?
สำหรับเฟิร์นมองว่าเวลาที่ความสัมพันธ์มันจบไม่จำเป็นต้องเป็นปัญหาเรื่องมือที่สามเสมอไป แค่คนสองคนมันก็ยากลำบากพออยู่แล้ว แต่ถ้าใครจะสงสัยก็เป็นสิทธิ์ของเขาเฟิร์นไม่ได้ว่าอะไร เพราะเราสามารถที่จะออกมาตอบได้เสมอ
ท็อปมีมาง้อเราบ้างไหม ?
มีค่ะ แต่ว่าเราก็คุยกันเข้าใจแล้วนะ แล้วเฟิร์นก็เชื่อว่าพี่เขารู้เหตุผลดีที่สุดในทุกอย่าง ตอนนี้ต่างคนก็ต่างเดินไปในเส้นทางของตัวเอง ไม่มีโอกาสรีเทิร์นแล้ว แต่ว่าเฟิร์นก็สามารถที่จะพูดคุยหรือทำงานร่วมกับพี่เขาได้ปกติค่ะ
ถ้ามีคนเชียร์มากๆ จะมีโอกาสพัฒนากับน้องนายไหม ?
เข็ดอ่ะ ยอมรับว่าเข็ดกับเรื่องความรัก เฟิร์นอยากขอพักไปยาวๆ เลยดีกว่า ไม่ได้คิดว่าจะต้องมีใครหรือยังไง อยากใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ทำชีวิตตัวเองให้โอเคก่อน
ปัญหามันรุนแรงขนาดทำให้รู้สึกว่าเข็ดเลยหรอ ?
ไม่หรอก คือเฟิร์นอาจจะเป็นคนที่มองไปถึงอนาคตในทุกอย่างด้วยแหละ แล้วพอมันไม่เป็นอย่างนั้นก็เลยรู้สึกว่าตัวเองคงยังไม่พร้อมมั้ง ยังไม่อยากมีใคร
ฝ่ายผู้ชายล่ะมีมือที่สามไหม ?
ไม่รู้เลย แล้วเท่าที่เฟิร์นทราบคือไม่มีนะคะ ส่วนอะไรที่เราไม่ทราบก็ไม่อยากพูด อย่างที่บอกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องระหว่างเราสองคนจริงๆ ค่ะ
อ่านข่าวใบเฟิร์น
>> โอ๊ย !! โดนจนได้ "มาร์ช" ปัด มือที่ 3 ทำ "ใบเฟิร์น" ร้างรา "ท็อป จรณ" รอยยิ้มแห่งความปวดใจ "ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก" เสียงสั่นรับห่าง "ท็อป จรณ"