เด็กเพื่อไทยบุกยื่นหนังสือ กกต. เรียกร้องให้ประกาศแบ่งเขตเลือกตั้ง ระบุความล่าช้ามีผลต่อการเตรียมการเลือกตั้งของพรรคการเมือง
เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายธวัชชัย สุทธิบงกช รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายชวลิต วิชยสุทธิ อดีต ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย นำหนังสือของ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อทไย มายื่นต่อ กกต. เพื่อเรียกร้องขอให้ กกต.ประกาศแบ่งเขตเลือกตั้ง
นายสามารถ กล่าวว่า หลัง กกต.ออกระเบียบแบ่งเขตเลือกตั้ง ได้มีการกำหนดขั้นตอนการแบ่งเขตไว้ชัดเจนว่าให้ ผอ.กกต.จังหวัดแบ่งเขตเลือกตั้ง พร้อมรับฟังความคิดเห็น และเสนอความเห็นมาให้ กกต. พิจารณา ซึ่งเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ผอ.กกต.จังหวัดได้เสนอความเห็นมาให้ กกต. แล้ว โดย กกต.มีเวลาพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 20 วัน ซึ่งนับระยะเวลาแล้วการแบ่งเขตเลือกตั้งควรจะเสร็จและประกาศในราชกิจจานุเบกษา ประมาณวันที่ 5 พ.ย. แต่จนถึงขณะนี้กลับยังไม่มีการประกาศแบ่งเขตเลือกตั้ง ซึ่งความล่าช้าจะมีผลต่อการเตรียมการเลือกตั้งของพรรคการเมือง นอกจากนี้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า กกต.ประกาศเขตเลือกตั้งช้าก็ไม่กระทบ เพราะมีระยะเวลาที่จะสามารถประกาศได้ไปจนถึงวันที่ 10 ธ.ค.นั้น ฟังแล้วก็ตกใจ ว่านายวิษณุ ไม่ทราบเลยว่าการประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งนั้นสำคัญต่อพรรคการเมือง เพราะจะต้องเอาข้อมูลการแบ่งเขตไปดำเนินงานตามแผนการทำงานของพรรค
เมื่อถามถึงกรณีมีกระแสข่าวว่ามีสมาชิกพรรคเพื่อไทย เตรียมเดินทางไปพบนายทักษิณ ชินวัตร ที่ประเทศสิงคโปร์ นายสามารถ กล่าวว่า ไม่มีใครไปพบ เว้นแต่มาใกล้ๆ ประเทศที่บินไปแล้วกลับวันเดียวได้ ก็คงมีคนไปเยี่ยมในฐานะคนที่นับถือ ไปทานข้าว ถามสารทุกข์สุกดิบกัน ก็เป็นเรื่องของวัฒนธรรมไทย ไม่ได้มานั่งประชุม ไม่ได้สั่งการอะไร ซึ่งตนก็เคยไป กินข้าวกินไวน์กับท่านก็ไม่เห็นมีอะไร
ด้าน นายชวลิต กล่าวว่า ที่ กกต.ประกาศเขตเลือกตั้งล่าช้านั้นอยากมาถามว่าเป็นเพราะสาเหตุอะไร เนื่องจากตอนนี้มีข่าวลือว่าผู้มีอำนาจมาบีบให้ชะลอการประกาศแบ่งเขต รวมทั้งมีข่าวลือว่าอาจจะมีการใช้มาตรา 44 มาแบ่งเขตในจังหวัดที่ยังไม่ลงตัว ซึ่งพรรคก็ยินดี ไม่ว่าจะแบ่งแบบไหน แต่อยากให้มีการเร่งประกาศแบ่งเขตออกมา เพราะเกรงว่าจะทำงานไม่ทัน โดยเฉพาะการตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด