ผู้ต้องสงสัยมือซ่อนเข็มเย็บผ้าในสตรอว์เบอร์รีออสเตรเลีย นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว หวั่นอาจถูกทำร้ายคนที่ไม่พอใจ หลังถูกจับกุมตัวเมื่อวันอาทิตย์ และถูกตั้งข้อหา 7 กระทง โทษจำคุกสูงสุด 15 ปี
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทำการสอบสวนเหตุการณ์ความตื่นตระหนกครั้งใหญ่ กรณีเสียบเข็มเย็บผ้าไว้ในผลสตรอว์เบอร์รีสดของออสเตรเลีย ซึ่งจุดชนวนให้เกิดความตื่นกลัวทั่วประเทศ ระบุชื่ออดีตเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพผลไม้ในไร่แห่งหนึ่ง เป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ ทั้งเข็มหมุดและเข็มเย็บผ้า ถูกพบซ่อนอยู่ในผลสตรอว์เบอร์รีในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ส่งผลให้ห้างซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งต้องเก็บสตรอว์เบอร์รี ออกจากชั้นวางสินค้าทั่วออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ นอกจากนี้ ยังบีบให้เกษตรกรต้องทิ้งผลผลิตที่เหลือด้วย
ความเลวร้ายที่เกิดขึ้น ยังมีกรณีต้องสงสัยพฤติกรรมเลียนแบบ และหลอกลวงด้วย กระตุ้นให้รัฐบาลแดนจิงโจ้เพิ่มกฎหมายลงโทษผู้กระทำความผิดทำให้ผลไม้ปนเปื้อน
มี่ อุต ตรินห์ วัย 50 ปี ซึ่งเคยทำงานที่ไร่สตรอว์เบอร์รีแห่งหนึ่ง ที่ถูกระบุว่าเป็นต้นตอของปัญหาดังกล่าว ถูกตำรวจรัฐควีนส์แลนด์จับกุมตัวและตั้งข้อหา 7 กระทง เกี่ยวกับการทำให้อาหารปนเปื้อนเมื่อวันอาทิตย์ เธอถูกนำตัวขึ้นศาลเมื่อวันจันทร์ และถูกปฏิเสธการประกันตัว หลังคณะอัยการกล่าวว่า เธออาจถูกทำร้ายได้จากการกระทำของเธอตามที่ถูกกล่าวหา โทษจำคุกสูงสุดจากคดีทำให้อาการปนเปื้อนในออสเตรเลีย เพิ่มจากเดิมเป็น 15 ปี
สื่อออสเตรเลีย รายงานว่า ศาลได้รับแจ้งว่า การกระทำของเธอมีแรงบันดาลใจจากความอาฆาตและต้องการแก้แค้น ทำให้เธอเสียบเข็มเย็บผ้าเข้าไปในผลสตรอว์เบอร์รีเมื่อต้นเดือนกันยายน
จอน แว็กเกอร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวกับผู้สื่อข่าวในเมืองบริสเบนว่า ตรินห์ ซึ่งเป็นพลเมืองออสเตรเลีย ทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบคุณภาพของผลไม้ในไร่แห่งหนึ่ง ซึ่งหนังสือพิมพ์คูเรียร์ เมล์ ในรัฐควีนส์แลนด์ ระบุชื่อนายจ้างของเธอ คือไร่ Berrylicious and Berry Obsession farm หนึ่งในไร่ที่ถูกระบุว่า เป็นต้นต่อของสตรอว์เบอร์รีเสียบเข็มเย็บผ้า
แว็กเกอร์ กล่าวว่า คณะสอบสวนมีหลักฐานชัดเจน ซึ่งรวมทั้งดีเอ็นเอด้วย ซึ่งทำให้ผู้ต้องสงสัยดิ้นไม่หลุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รวบรวมรายงานกว่า 230 กรณีทั่วประเทศเกี่ยวกับสตรอว์เบอร์รีปนเปื้อน ที่ส่งผลกระทบถึง 68 ยี่ห้อ ส่วนใหญ่อยู่ภายในรัฐของเขา
ด้านสมาคมผู้ปลูกสตรอว์เบอร์รีของรัฐควีนส์แลนด์ แสดงความยินดีต่อการจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยดังกล่าว แต่ก็บอกว่า ยังมีอีกหลายกรณียังไม่ได้รับการแก้ไข ทั้งพวกที่มีพฤติกรรมเลียนแบบ และหลอกลวง
ในรัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งอุตสาหกรรมสตรอว์เบอร์รี มีมูลค่าสูงถึง 130 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (93 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือประมาณ 3,110 ล้านบาท รัฐบาลท้องถิ่นให้คำมั่นว่า จะอุดหนุนเงินให้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบในรัฐแห่งนี้ 1 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย พร้อมทั้งได้เสนอเงินรางวัลนำจับ 100,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย สำหรับผู้แจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด
