"รศ.ดร.วีรชัย" ระบุกรณีพ่อแม่ลูกหมดสติภายในรถขณะขับรถไปเที่ยวบางแสน เกิดจากท่อไอเสียรั่ว ทำให้ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ เข้าสู่ร่างกายเกินขนาด
เมื่อวันที่ 12 พ.ย. รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวถึงกรณีพ่อแม่ลูกหมดสติคารถ ในขณะที่กำลังจะขับรถไปเที่ยวบางแสน จ.ชลบุรี ว่า กรณีเช่นนี้เกิดจากท่อไอเสียรั่วบริเวณห้องเครื่อง หรือบริเวณหน้าตัวรถ ทำให้ไอเสียรถยนต์เข้ามาในห้องโดยสารขณะที่รถวิ่ง ประกอบกับคนภายในรถได้กลิ่นไหม้ ทำให้คนภายในรถรู้สึกอ่อนเพลีย และหมดสติ แต่โชคดีที่ช่วยเหลือไว้ได้ทัน ซึ่งชัดเจนว่าถึงแม้รถวิ่ง ท่อไอเสียก็สามารถรั่วเข้ามาในรถได้ ส่วนกลิ่น หากมีกลิ่นน้ำมัน หรือกลิ่นค่อนข้างฉุน แสดงว่าเครื่องยนต์เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ซึ่งจะให้ก๊าซ 2 ตัวออกมาหลักๆ คือ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์
รศ.ดร.วีรชัย กล่าวตอ่ว่า ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ เป็นก๊าซไม่มีสี ไม่มีกลิ่น แต่จะแฝงตัวมากับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเมื่อเข้ามาในห้องโดยสาร คนขับรถกับผู้โดยสารจะไม่รู้ตัว โดยอาการแรกจะรู้สึกอ่อนเพลีย หากรับในปริมาณที่มากขึ้นก็จะสลบ หมดสติ หากมากเกิน 2000 ppm ก็ถึงขั้นเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ ปฏิกิริยาของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เมื่อเข้ามาสู่ร่างกายในปริมาณมากกว่า 120 ppm จะทำให้อ่อนเพลีย เนื่องจากเป็นก๊าซที่มีความเร็วในการจับฮีโมโกลบินในเลือด ปกติฮีโมโกลบินในเลือดจะขนถ่ายออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนออกซิเจนในร่างกายปกติ แต่เมื่อเจอก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้ามา มันจะวิ่งจับกับฮีโมโกลบินแทนที่ออกซิเจน ความเร็วในการวิ่งจับฮีโมโกลบินสูงกว่าออกซิเจน 300 เท่า ซึ่งคนในรถจะไม่รู้ตัวว่า สิ่งที่หายใจเข้าไปไม่มีอากาศเข้าไปเลี้ยงสมองเลย จึงทำให้คนที่อยู่ภายในรถอ่อนเพลียทั้งระบบ ส่วนวิธีการแก้ไขเมื่อเจอลักษณะแบบนี้ สิ่งแรกคือการเปิดกระจกให้อากาศเข้ามาในห้องโดยสารโดยเร็วที่สุด และให้ผู้ขับขี่ดูแลรักษารถตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพราะส่วนใหญ่ท่อไอเสียรั่วมักจะเกิดกับรถเก่า ให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัย
ขอบคุณภาพจากเพจ : คนข่าวบางปะกง