เครือข่ายฯ ทวงป่าแหว่งเคลื่อนไหว ปั่นจักรยานทวงป่า พร้อมเผาโลงศพสาปแช่ง ขณะที่แกนนำเครือข่ายฯ เปิดเผย คนเชียงใหม่ไม่พอใจท่านสุวพันธ์ ที่นำคนนอกพื้นที่มาตัดสินใจ หลังจากนี้จะเข้าหาพรรคการเมืองหากต้องการใจคนเชียงใหม่ต้องรื้อบ้านป่าแหว่ง
วันที่ 11 พ.ย. นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ พร้อมด้วยแกนนำเครือข่ายฯ รวมถึงกลุ่มชมรมจักรยานเชียงใหม่ รวมกว่า 200 คน ได้ร่วมกันจัดกิจกรรม "ปั่น ทวง ป่า" โดยจุดเริ่มต้นบริเวณด้านหน้าศูนย์ประชุมนานาชาติเชียงใหม่ ถ.คันคลองชลประทาน จากนั้นได้ปั่นไปตามถนน มุ่งหน้าไปที่ด้านหน้าอาคารสำนักงานศาลอุทธรณ์ภาค 5 เพื่อชูป้ายแสดงสัญลักษณ์ ก่อนที่จะเดินทางไปบริเวณเนินดินที่อยู่ด้านข้างบ้านพักศาลอุทธรณ์ภาค 5 เพื่อทำพิธีฌาปนกิจโลงศพ โดยมีป้ายเขียนติดว่า "นายป่าแหว่ง อยุติธรรม ชาตะ 19 มิถุนายน 2556 มรณะ 11 พฤศจิกายน 2561"
ต่อมาทางพระสงฆ์ได้ทำพิธีทางสงฆ์ หลังจากที่นำโลงศพขึ้นสู่เชิงตะกอนแบบจำลองเสร็จ จากนั้น นางคำสีดา แป้นไทย หนึ่งในแกนนำเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ได้กล่าวประวัติของนายป่าแหว่ง อยุติธรรม ว่า "นายป่าแหว่ง อยุติธรรม กำเนิดจาก นาย อำนาจ อยุติธรรม กับนาง บารมี อยุติธรรม (นามสกุลเดิม เจ้ายศ) บิดากับมารดา ได้หมั้นหมายกันเมื่อปี พ.ศ. 2546 และสมรสเข้าห้องหอโดยสมบูรณ์เมื่อพ.ศ. 2549 จากนั้นเมื่อพ.ศ.2556 จึงได้ถือกำเนิดนายป่าแหว่งออกมาละแวกเชิงดอยสุเทพ เขตอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่โดยไม่มีชาวบ้านได้รู้เห็น กระทั่งเจ้าหน้าที่อบต.ดอนแก้ว ก็ไม่ได้รับแจ้ง นายป่าแหว่งเติบโตขึ้น พร้อมๆ กับการกินต้นไม้เป็นอาหาร กินน้ำจากลำธารห้วยชะเยืองจนเติบใหญ่ ไล่ทำร้ายนกกาสัตว์น้อยใหญ่ที่เคยอาศัยในเชิงป่าละแวกนั้นเสียหมดสิ้น ในที่สุดจึงมีชาวบ้านไปพบเห็นเมื่อราวพ.ศ. 2558 พฤติกรรมของนายป่าแหว่ง อยุติธรรม ไม่เป็นที่สบอัธยาศัยของประชาชนชาวบ้าน แรงแช่งชักของชาวบ้านชาวเมืองที่ก่นด่าดังก้องไปทั่ว ยิ่งนานก็ยิ่งดังขึ้น ๆ จนที่สุด นายป่าแหว่ง อยุติธรรม ไม่สามารถทานทนต่อเสียงอันชอบธรรมของประชาชนและชุมชน เป็นอันต้องจบสิ้นถึงกาลมรณะลง วันนี้ ประชาชนชาวเชียงใหม่ได้พร้อมใจมาสวดส่ง บังสุกุล ให้นายป่าแหว่ง อยุติธรรม ได้ไปสู่ภพภูมิเหมาะสมของตนต่อไป"
หลังอ่านประวัติเสร็จแล้ว หนึ่งในตัวแทนก็ได้วางผ้าบังสกุล ก่อนที่ทางพระสงฆ์จะกล่าวถวายรับผ้าบังสกุล และร่วมกันวางดอกไม้จันทร์ วางพวงหรีดลงในโลง ซึ่งภายในโลงมีการนำกล่องกระดาษ และผ้ามาทำคล้ายกับรูปคนครึ่งตัว เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ก็ได้เป็นผู้จุดไฟเผาโลงดังกล่าว และได้ตะโกนพร้อมกันว่า "เตขว้าง" ทั้งหมด 3 ครั้ง ก่อนที่จะมีการแยกย้ายกัน
ด้าน นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ กล่าวว่า หลังจากท่าน สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาบอกว่าคนนอกพื้นที่ไม่ต้องการให้รื้อบ้านป่าแหว่งมันทำให้เกิดกระแสโกรธแค้นของชาวเชียงใหม่ ซึ่งคนเชียงใหม่มีหลายกลุ่มมาก และเครือข่ายฯ ก็เป็นกลุ่มหลักกลุ่มหนึ่ง ถึงแม้ว่าเราจะไม่เห็นด้วยการกระทำบางอย่างที่ไปละเมิดท่านผู้พิพากษาบางท่าน แต่ก็คือความจริงที่ว่ายังมีคนอาศัยอยู่ในบ้านป่าแหว่ง อาศัยอยู่ในอาคารชุด ไม่ใช่เรื่องเท็จอะไร และผู้พิพากษาที่มีรายชื่อปรากฎออกมา คนที่ไม่พอใจอาจจะเปิดเผยรายชื่อชุดที่สอง ชุดที่สามออกมาอีกก็ได้ ทางเครือข่ายฯ ก็อยากให้ยุติ ไม่อยากให้เกิดเรื่อง อยากฝากถึงรัฐบาลว่า ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่จะยุติเรื่องนี้ คนเชียงใหม่อยู่กับดอยสุเทพ เคารพดอยสุเทพ เป็นจริยธรรมถ้าตุลาการยังยื้อที่จะอยู่บ้านป่าแหว่งแห่งนี้ ท่านก็จะโดนสาปแช่งต่อไป ฝากถึงรัฐบาลด้วยหากท่านอยากได้ใจคนเชียงใหม่ก็ขอให้รีบตัดสินใจ ท่านนายกฯ รีบตัดสินใจโดยด่วน
สำหรับกิจกรรมวันนี้ก็จะเป็นกิจกรรมปั่นทวงป่าแหว่ง เริ่มจากศูนย์ประชุมนานาชาติ และปั่นไปถึงด้านหน้าศาลอุทธรณ์ภาค 5 เพื่อจะบอกว่ามันนานแล้วที่ท่านได้ตกลงกับประชาชนชาวเชียงใหม่ว่าจะคืนป่าให้กับคนเชียงใหม่ แต่ท่านก็ยังไม่คืน วันนี้จึงมีการเรียกร้องให้ท่านทำตามมติของจังหวัดเชียงใหม่ ท่านต้องย้ายผู้ที่พักอาศัยอยู่ในอาคารชุด 9 หลัง ประมาณ 30 ครอบครัว ที่อยู่ในข้อพิพาทลงมาอยู่ในอาคารชุด 4 หลังด้านล่างที่ไม่ได้บุกรุกป่า และเรื่องที่สอง ขณะนี้ผู้รับเหมาส่งมอบงานเรียบร้อยแล้ว ท่านจะต้องคืนพื้นที่ให้กับกรมธนารักษ์ตามที่ท่านสัญญา และข้อที่สามคือจะต้องย้ายบ้านพักออกจากพื้นที่ ทั้งหมด 3 ข้อนี้เป็นมติของจังหวัดเชียงใหม่ ของคนเชียงใหม่ ขอให้ท่านปฏิบัติตาม วันนี้จึงรวมตัวทำกิจกรรมและอยากบอกว่า "เราไม่ต้องการชนะท่านหรอก แต่เราต้องการป่าคืน" เพราะฉะนั้น อย่ายื้อปัญหาและคนเชียงใหม่ยังตามอยู่ตลอด และจะไม่หยุดหากท่านยังอยู่ในเขตพื้นที่บุกรุกป่า เขตข้อพิพาท วันนี้จึงเป็นกิจกรรมย่อยอีกกิจกรรมหนึ่ง หลังจากนี้ก็รออีก 30 วันตามที่ท่านสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บอกว่าจะประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ และจะเสนอให้ท่านนายกรัฐมนตรีตัดสินใจ และในวันนั้นจะรวมตัวกันอีกครั้งหนึ่ง