ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ แถลงเมื่อวันศุกร์ว่า เขาได้ลงนามในคำประกาศว่าด้วยผู้อพยพเข้าเมือง ซึ่งเป็นคำสั่งที่จะมาเสริมประสิทธิภาพในการห้ามผู้อพยพที่ข้ามพรมแดนสหรัฐติดกับเม็กซิโก อย่างผิดกฎหมาย ขอลี้ภัยในสหรัฐอย่างเด็ดขาด โดยจะมีผลบังคับใช้ทันทีในวันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายนนี้
รัฐบาลสหรัฐ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ ได้เปิดเผยกฎใหม่นี้เมื่อวันพฤหัสบดี เพื่อจำกัดการขอลี้ภัยของผู้อพยพ ด้วยการเจาะจงห้ามผู้อพยพที่ข้ามพรมแดนทางภาคใต้ของสหรัฐอย่างผิดกฎหมาย ขอลี้ภัยในสหรัฐ พวกเขาต้องยื่นคำร้องขอ ณ ที่จุดผ่านแดนเข้าเมืองเท่านั้น โดยทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันศุกร์ ก่อนเดินทางไปยังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสว่า สหรัฐต้องการให้ทุกคนเข้าประเทศ แต่พวกเขาต้องมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และพวกเขาต้องมีความเหมาะสม
คำสั่งนี้ ถือเป็นมาตรการชั่วคราว และไม่ได้เกี่ยวกับกฎหมายฉบับปัจจุบันที่ใช้อยู่ ซึ่งระบุว่า ใครก็ตามที่ยื่นขอลี้ภัยในสหรัฐ มีสิทธิที่จะได้รับการพิจารณา ไม่ว่าจะเดินทางเข้าเมืองถูกกฎหมาย หรือผิดกฎหมายก็ตาม ทั้งนี้ มีผู้อพยพเข้าสหรัฐผิดกฎหมาย ประมาณ 70,000 คน ที่ขอลี้ภัยในแต่ละปี
มาตรการนี้ ไม่ได้แตกต่างจากคำสั่งที่ทรัมป์เคยใช้เป็นเหตุผลในการห้ามประชาชนในประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นสมุสลิมเข้าสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากศาลสูง และครั้งนี้ก็ถูกท้าทายในศาลทันที โดยไม่กี่ชั่วโมงหลังทรัมป์ประกาศเรื่องนี้ สหภาพเสรีภาพพลเรือนอเมริกา หรือเอซีแอลยู ได้ยื่นฟ้องร้องต่อศาลกลางในรัฐแคลิฟอร์เนีย ขอให้ศาลระงับคำสั่งดังกล่าวไม่ให้มีผลบังคับใช้
ลี เกเลิร์นท์ ทนายความของเอซีแอลยู กล่าวว่า กฎใหม่นี้ จะทำให้หลายครอบครัวของผู้อพยพตกอยู่ในอันตราย
