เมื่อความก้าวหน้าของเทคโนโลยีมีมากขึ้น อินเทอร์เน็ตหรือโซเชียลมีเดียเริ่มมีบทบาทมากขึ้นต่อชีวิตประจำวันของคนในสังคม ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสาร ติดตามข่าวคราวบ้านเมือง หรือการซื้อขายสินค้า ฯลฯ สามารถทำได้ง่ายและรวดเร็วผ่านทางโซเชียลมีเดีย และด้วยความสะดวกสบายนี่เองจึงทำให้เกิดช่องทางให้กลุ่มมิจฉาชีพ ผู้ไม่หวังดีเข้ามาหลอกลวงผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต หรือในโซเชียลมีเดียในรูปแบบ ต่างๆ ดังนั้น เราขอหยิบประเด็นนี้มาพูดถึงกัน กับ 5 วิธีท่องอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย
ถือเป็นข้อปฏิบัติพื้นฐานของการใช้อินเทอร์เน็ตก็ว่าได้ สำหรับการให้ข้อมูล หรือกรอกรายละเอียดข้อมูลส่วนตัวลงบนระบบอินเทอร์เน็ต ทั้งชื่อ-สกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ รูปถ่ายส่วนตัว หรือแม้กระทั่งเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ถือว่าเป็นข้อมูลสำคัญ ที่กลุ่มผู้ไม่หวังดีสามารถนำไปสวมรอย เพื่อทำการหลอกล่วงผู้ใช้อินเทอร์เน็ตรายอื่นๆ ก็เป็นได้ ดังนั้น เราจึงต้องระมัดระวังการให้ข้อมูลในส่วนนี้ให้ดี ตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าเว็บไซต์ที่ต้องการข้อมูลเหล่านี้ น่าเชื่อถือ หรือได้รับการยอมรับจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากน้อยเพียงใด
2. รูปสวย รวยไวรัส
ถือเป็นกลวิธีของกลุ่มมิจฉาชีพที่มีมานานแล้ว สำหรับการใช้รูปภาพหญิงสาวสวยเซ็กซี่ หรือลามกอนาจาร ทั้งแบบภาพนิ่ง และเคลื่อนไหว เพื่อนำมาหลอกลวงผู้ใช้อินเทอร์เน็ตหลงเข้าไปกดแล้วแอบขโมยข้อมูลส่วนตัว หรือแม้แต่ฝากไวรัสและพวกสแปมต่างๆ เข้ามาโจมตีเครื่องคอมพิวเตอร์ ดังนั้น แล้วข้อควรระวังของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต คือเมื่อได้เห็นโฆษณา หรืออีเมลแปลกๆ ที่มีรูปภาพลามกอนาจาร ใช้พึงระวังไว้ก่อนว่า นี่เป็นสิ่งอันตราย ไม่ควรกดเข้าไป หรือดาวน์โหลดอะไรลงบนไว้บนเครื่องคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนของเราทั้งสิ้น
3. ตั้งข้อสงสัยต่อสินค้าราคาถูกเกินจริง
การซื้อขายสินค้าออนไลน์กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในขณะนี้ เนื่องจากความสะดวกสบาย ช่วยประหยัดทั้งแรง ประหยัดทั้งเวลา แต่ด้วยข้อจำกัดของการซื้อขายบนอินเทอร์เน็ต ที่ส่วนมากจะแสดงภาพประกอบของสินค้านั้นๆ ให้ผู้ซื้ออย่างเราได้ตัดสินใจ โดยไม่สามารถตรวจสอบสินค้าได้ด้วยตนเอง จึงทำให้ที่ผ่านมาเกิดความเสียหายจากการซื้อของออนไลน์อยู่มากมาย ทั้งสินค้าไม่เหมือนกับภาพประกอบ ได้รับของปลอม หรือแม้แต่โดนหลอกให้โอนเงินไปเฉยๆ ก็มี ซึ่งเหล่านี้เองผู้ใช้อินเทอร์เน็ตหรือนักช็อปออนไลน์ควรตรวจสอบให้ดีก่อนซื้อ ไม่หลงเชื่อคำโฆษณาอันหอมหวน อย่างภาพประกอบสินค้าที่ดูเกินจริง หรือราคาสินค้า (หรือบริการ) ที่ถูกจนเกินไป ฯลฯ ดังนั้น เราจึงต้องตรวจสอบความน่าเชื่อถือของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ให้ดีเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นการอ่านรีวิวจากผู้ที่เคย หรือซื้อจากเว็บไซต์ที่มีการรับรองการขายอย่างเป็นรูปธรรม เหล่านี้เพื่อความปลอดภัยในการซื้อขายสินค้า (หรือบริการ) ของผู้บริโภคอย่างเราๆ นั่นเอง
4. ระวังเว็บไซต์ข่าวปลอม
กรณีการเกิดข่าวลือ หรือข่าวไม่เป็นจริงเกิดขึ้นให้เห็นบ่อยครั้งในโซเชียลมีเดียระยะหลังมานี้ โดยกลุ่มมิจฉาชีพมักสร้างข่าวที่้ทำให้เกิดความรู้สึกร่วมของคนในสังคม อย่างเช่นข่าวอาชญากรรมต่างๆ ทั้งการฆ่าข่มขืน ข่าวการกระทำที่ผิดศีลธรรม รวมถึงรูปแบบอื่นๆ เพื่อให้กลุ่มผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตหรือในโซเชียลมีเดียเข้ามากดแชร์ ส่งต่อเพื่อนๆ หรือเข้ามากดติดตามเว็บไซต์ข่าวปลอมเหล่านี้ โดยวิธีการที่กลุ่มผู้ปล่อยข่าวปลอมเหล่านี้ใช้นั้น มักจะสร้างเพจเว็บไซต์ที่มีชื่อเหมือนกับสำนักข่าวชื่อดังต่างๆ ของประเทศไทยขึ้นมา เพื่อเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือของข่าว ดังนั้นแล้ว ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตควรตตรวจดูให้ละเอียดของเหล่าที่มาของข่าว เช็กความน่าเชื่อถือของสื่อ รวมถึงดูให้แน่ใจว่าข่าวที่ได้อ่านนั้นเป็นข่าวจริง เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้นทั้งต่อตัวเราเองและต่อสังคม
5. ตรวจสอบสักนิด ก่อนคิดกดแชร์
เนื่องจากการเข้าถึงข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตได้อย่างง่ายดาย ทำให้การสร้างความเชื่อที่ผิดๆ ให้เกิดขึ้นในสังคมได้ง่ายเช่นเดียวกัน ทั้งสื่อลามกอนาจาร โฆษณาสินค้าที่เกิดจริง หรือข่าวลือต่างๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่สร้างผลกระทบต่อสังคมโดยรวมเป็นอย่างมาก ซึ่งมักจะเห็นข่าวการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตนี้อยู่บ่อยครั้ง ดังนั้น เพื่อปลอดภัย เราควรตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อน โดยการนำ 'หัวข้อเรื่อง' ที่เราสงสัย มาค้นหาในเว็บไซต์ Google ก่อนเพื่อดูว่ามีเว็บไซต์หรือแหล่งข้อมูลอื่นๆ เขียนถึงข้อมูลใน 'หัวข้อเรื่อง' ดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งนอกจากจะเป็นการเช็กความถูกต้องแล้ว ยังเป็นการป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลที่ผิดๆ เหล่านี้ลงบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งถือเป็นการกระทำผิดกฏหมายในฐานส่งต่อข้อมูลอันเป็นเท็จลงบนอินเทอร์เน็ตอีกด้วย
ภาพ Shahril KHMD / shutterstock.com