ผลการตรวจหาอายุ ซากโครงกระดูกปลาโลมา ที่ถูกฝังอย่างน่าพิศวง บนเกาะเกิร์นซีย์ ในช่องแคบอังกฤษ พบว่าอยู่ในยุคกลาง แต่สิ่งที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญยังงวยงง ไม่สามารถอธิบายได้ก็คือ เหตุใดสัตว์แห่งท้องทะเลชนิดนี้ จึงถูกนำไปฝังไว้ในหลุม คล้ายสุสานของมนุษย์ เมื่อ 600 ปีที่แล้ว
ดร.ฟิลิป เดอ เจอร์ซีย์ นักโบราณคดี เผยว่า ซากกระดูกปลาโลมาถูกพบในระหว่างการขุดค้นทางโบราณคดี บนเกาะชาแปลล์ ดอม ฮิว เกาะขนาดเล็กนอกชายฝั่งตะวันตกของเกาะใหญ่เกิร์นซีย์ เพื่อค้นหาอาคารเก่าแก่หลังหนึ่ง ที่เคยตั้งอยู่บนเกาะ เมื่อเดือน ก.ย. ปีที่แล้ว และการค้นพบมันทำให้การค้นพบอื่น ๆ บนเกาะลดความสำคัญลงไป
การตรวจหาค่าอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสี โดยห้องแล็ปผู้เชี่ยวชาญในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา บ่งชี้ว่า โลมาตัวนี้ถูกฝังระหว่างปี พ.ศ. 1959 – 2033 ซึ่งสอดคล้องกันพอดีกับประวัติศาสตร์โบราณคดีของเกาะชาแปลล์ ดอม ฮิว
ตอนนี้ ดร. เดอ เจอร์ซีย์ เชื่อว่า โลมาตัวนี้ถูกมนุษย์ฆ่า และแช่น้ำเกลือฝังไว้ใต้ดิน เพื่อเก็บรักษาไว้กินเป็นอาหาร ไม่ใช่การฝังตามพิธีกรรม โดยนักบวชคริสต์ที่วัดอยู่ใกล้เคียง เนื่องจากมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์เขียนจารึกไว้ว่า มีการบริโภคปลาโลมาเป็นอาหารในยุคกลาง โดยเฉพาะที่เกาะเกิร์นซีย์ ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13 และ 14 บันทึกยังเขียนไว้อีกว่า ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12 และ 13 เกิดกรณีพิพาทขนานใหญ่นานนับเดือน เกี่ยวกับเนื้อปลาโลมา บนเกาะเกิร์นซีย์