เหยื่อข้าวกล่องโผล่อีก โดน “อิ๋ว”ตุ๋นสูญนับแสน

2018-11-08 11:20:15

เหยื่อข้าวกล่องโผล่อีก โดน “อิ๋ว”ตุ๋นสูญนับแสน

Advertisement

เหยื่อรับจ้างทำข้าวกล่องโผล่อีกราย แฉ “อิ๋ว” ชักชวนทำส่งโรงงานสูญเงินนับแสนบาท เผยให้ไปส่งที่บ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านใน ต.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ แต่กลับนำไปแจกให้กับชาวบ้านในพื้นที่ วันไหนข้าวกล่องเหลือแจกไม่หมด ก็นำไปทิ้งแม่น้ำ รู้ตัวถูกหลอกเลยถอยออกมา

จากกรณีมีผู้เสียหายจากการทำข้าวกล่อง 1 หมื่นกล่อง เข้าแจ้งพนักงานสอบสวน สภ.พญาแมน จ.อุตรดิตถ์ ให้ดำเนินคดีกับ 2 สาว ผู้ว่าจ้างแล้วไม่รับข้าวกล่อง โดยอ้างว่า ทำให้สูญเงินกว่า 8 แสนบาท ขณะเดียวกันมีหญิงสาวอีกรายออกมาให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ คุณพ่อได้ทำสัญญาทำข้าวกล่อง 2 หมื่นกล่อง แต่พอถึงเวลาผู้ว่าจ้างมารับข้าวกล่อง กลับอ้างว่าข้าวไม่มีคุณภาพ ต้องจ่ายค่าปรับเป็นเงิน 7 แสน สุดท้ายพ่อเครียดและเสียชีวิตในเวลาต่อมาตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น


เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ผู้สื่อข่าว จ.อุตรดิตถ์ รายงานว่า มีชาวพิษณุโลกอีก 1 ราย คือ น.ส.อำภาพร ดอนคำไพ อายุ 31 ปี ตกเป็นเหยื่อเคยหลงกลไปร่วมธุรกิจทำข้าวกล่องส่งโรงงาน ที่ จ.อุตรดิตถ์ เมื่อกลางปี 2560 แม้จะถอนตัวออกมาได้ทัน แต่ก็สูญเงินไปนับแสนบาท เปิดเผยว่า เดิมประกอบอาชีพเสริมสวยในเขตตัวเมืองพิษณุโลก ได้รู้จักลูกค้าคนหนึ่งชื่อ อิ๋ว อายุประมาณ 30-35 ปี มาใช้บริการต่อผมกับตนเป็นประจำ ต่อมาตนเลิกกิจการแต่ก็ยังคงติดต่อกันเรื่อยมา ลักษณะท่าทางแต่งตัวดี ทำตัวมีฐานะ ทำธุรกิจหลายอย่าง กระทั่งได้ไปที่บ้านของสาวรายนี้และเห็นคนทำกับข้าวกัน อิ๋วบอกกับตนว่าทำกับข้าวส่งโรงงานใน จ.อุตรดิตถ์ วันละ 10,000 กล่อง ได้สัมปทานมา พร้อมชักชวนให้มาร่วมทำธุรกิจข้าวกล่องส่งโรงงานกัน จนกระทั่งกลางปี 2560 จึงตัดสินใจร่วมธุรกิจ โดยต้องไปทำข้าวกล่องที่ จ.อุตรดิตถ์ เริ่มจากทำค่าเปลี่ยนสัญญาเป็นเงิน 20,000 บาท ค่าซื้ออุปกรณ์ทำกับข้าวที่ต้องซื้อกับอิ่ว จึงโอนเงินให้ไปจำนวน 100,000 บาท ได้หม้อ 20 ใบ เตา 10 เตา จากนั้นประมาณเดือน ส.ค.2560 จึงได้เริ่มต้นทำข้าวกล่องอย่างจริงจัง โดยไปเช่าบ้านอยู่ที่ ต.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ เดือนละ 5,000 บาท เพื่อทำธุรกิจข้าวกล่องส่งโรงงาน ได้ว่าจ้างคนในพื้นที่มาร่วมทำกับข้าว เริ่มจากวันละ 100-200 กล่อง ราคาขายกล่องละ 50 บาท


น.ส.อำภาพร เล่าว่า เริ่มต้นที่ทำข้าวกล่องส่งให้ยังได้เงินกลับคืนมา ลงทุนค่าวัตถุดิบค่าแรงวันละประมาณ 5,000 บาท ได้เงินกลับมาวันละ 7,000 - 9,000 บาท โดยทำช่วงแรกมีคนมารับถึงบ้านเช่า บางวันก็ให้ไปส่งที่บ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ และเมื่อทำข้าวกล่องส่งมาได้สักระยะเริ่มเอ๋ะใจ เพราะได้ตามไปถามและได้ข้อมูลจากชาวบ้านว่า ข้าวกล่องที่ตนทำไปนั้น ไม่ได้นำไปส่งโรงงานแห่งใดเลย แต่กลับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านนำไปแจกให้กับชาวบ้านในพื้นที่ วันไหนข้าวกล่องเหลือแจกไม่หมด ก็จะนำไปทิ้งแม่น้ำแถวนั้น จึงรู้ตัวว่าไม่ได้ทำข้าวกล่องส่งโรงงานจริง น่าจะเป็นกระบวนการอะไรสักอย่าง จึงถอยออกมา และบอกกับอิ๋วว่า ไม่ทำธุรกิจข้าวกล่องส่งโรงงานอีกแล้ว อยากกลับไปทำธุรกิจที่บ้าน เพื่อที่จะไม่ถลำลึกลงทุนเพิ่มอีก เพราะตอนนั้นอิ๋ว เสนอมาว่าให้ทำสัญญาทำข้าวกล่องส่งโรงงานอีก 10,000 กล่อง แต่ต้องทำสัญญาอีก 200,000 บาท และต้องลงทุนอีกจำนวนมาก จึงบอกเลิก ตอนนั้นได้ค่าเปลี่ยนสัมปทานกลับคืนมา 20,000 บาท ส่วนเงินลงทุนค่าอุปกรณ์ 100,000 บาท นั้น ได้กลับมาแค่หม้อแกง 5 ใบ กับเตาแก๊สหุงต้ม 2 ใบ จากนั้นจึงกลับมาที่ จ.พิษณุโลก และบอกกับคนที่รู้จักกันว่าโดนหลอก กระทั่งเห็นข่าวที่ จ.อุตรดิตถ์ จึงรู้ว่าเป็นคนเดียวกันที่มาหลอกตน



น.ส.อำภาพร กล่าวอีกว่า ตนเป็นผู้เสียหายที่โดนน้อยที่สุดแล้ว ช่วงนั้นเห็นคนทำกับข้าวกันหลายราย ลงทุนซื้อสัมปทานกันเป็นคนละล้านบาทก็มี ส่วนใหญ่เป็นคนที่มาจากภาคใต้ในช่วงนั้น มาทำที่ จ.อุตรดิตถ์ เสียหายกันเยอะมาก ซึ่งหลังจากเลิกทำข้าวกล่องแล้ว ตนได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.พญาแมน จ.อุตรดิตถ์ แต่ก็ไม่ได้ติดตามความคืบหน้าทางคดี ถือเป็นบทเรียนอย่างมากที่ไว้ใจคนที่เราไม่ได้รู้จัก เราไม่ศึกษาข้อมูลให้ดีว่าเขาส่งที่ไหน การทำสัญญาก็ไม่เห็นตัวสัญญา เสียเงินไปประมาณ 100,000 บาท ที่ออกมาพูดวันนี้เพราะไม่อยากให้ใครไปเชื่อการทำธุรกิจข้าวกล่องว่ามันมีจริง มันไม่มีโรงงานที่จะมารับข้าวกล่องเหมือนที่กล่าวอ้างเลย




พล.ต.ต.พยูห์ ธนะศรีสืบวงศ์ ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า คาดว่ายังคงมีผู้เสียหายรายอื่นอีกหลายรายที่ยังไม่เข้ามาแจ้งความ จึงอยากให้ผู้เสียทุกคนที่ทราบให้รีบไปดำเนินการ ส่วนกรณีที่ผู้เสียถูกหลอกให้ทำสัญญา เพื่อดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่มีการประวิงเวลาเพื่อยื้อให้ผู้ถูกหลอกทำสิ่งของที่สั่งไม่ตรงกับเงื่อนไงในสัญญา โดยฝ่ายผู้ว่าจ้างจะฟ้องร้องเพื่อเรียกค่าเสียหาย ซึ่งเป็นการฉ้อโกง ตอนนี้ได้ให้พนักงานสอบสวนหลายนายเร่งสอบปากคำผู้เสียหายตรวจสอบสัญญาต่างๆที่ผู้ว่าจ้างทำขึ้น เพื่อเป็นพยานหลักฐานและเร่งดำเนินคดีกับกลุ่มขบวนการที่มาหลอกลวงดังกล่าวนี้โดยเร็ว ซึ่งหลังจากรวบรวมหลักฐานต่างๆได้แล้วก็จะเข้าประชุมกันอีกครั้ง ส่วนข่าวที่ระบุว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยนั้น ขณะที่ทำการสอบสวนยังไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปพัวพัน แต่หากพบว่ามีส่วนก็จะถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดใจสาวจ้างทำข้าวกล่องลั่นไม่ได้โกง