“คุณหญิงสุดารัตน์” ลงพื้นที่ตลาดวงศกร เขตสายไหม กทม.รับฟังปัญหาประชาชน พร้อมรับสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทย ระบุจะทำให้ความสุขกลับคืนมาอย่างแท้จริง พร้อมทำให้เงินในกระเป๋าที่มันแฟบ กลับมาพองโตอีกครั้ง ลั่นสานต่อนโยบาย “เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส” สมัยไทยรักไทย
เมื่อวันที่ 2 พ.ย. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ตลาดวงศกร เขตสายไหม กทม.เพื่อรับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว และเชิญชวนสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยมี น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ นายวัฒนา เมืองสุข นายวิชาญ มีนชัยนันท์ นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ ให้การต้อนรับและร่วมรับฟังปัญหาความเดือดร้อน จากประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้มีประชาชนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมมอบดอกไม้และขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ขณะที่บางคนมอบขนมจีนที่ ชาวชุมชน แอเน็กทํามามอบให้คุณหญิงสุดารัตน์นำกลับไปรับประทาน
นายสมศักดิ์ ล้อเพชรรุ่งเรือง ตัวแทนผู้ค้าตลาดวงศกร สะท้อนปัญหา ความเป็นอยู่ว่า มีปัญหา มีความทุกข์ โดยเฉพาะสภาวะเศรษฐกิจ จึงอยากให้ลงมาดูแลประชาชน ให้มีโอกาสลืมตาอ้าปากอีกครั้งหนึ่ง เพราะลำบากมากในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ เชื่อประชาชนคนทั้งประเทศ ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน สำหรับปัญหาของคนสายไหม กังวลเรื่องการทิ้งขยะที่ส่งกลิ่น ถึงเวลาที่จะย้ายโรงขยะออกไปจากสายไหม พร้อมแนะนำให้เปลี่ยนเส้นทางไปมอเตอร์เวย์ ไม่ต้องผ่านสายไหมเป็นระยะทางยาวๆรวมถึงเรื่องปัญหาการจราจรในพื้นที่สายไหม โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน
"ทั้งหมดหวังว่าจะได้รับการแก้ไขท่านเป็นความหวังหนึ่ง ของคนรากหญ้าอย่างพวกเรา ผมไม่มีสิ่งใดจะมอบให้พวกท่านวันนี้ ในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้อย่าให้เสียงกระซิบของคนรวยดังกว่าเสียงตะโกนของคนยากจนทั้งแผ่นดิน"นายสมศักดิ์ กล่าว
ด้านตัวแทนชมรม คนรักสุขภาพ เคหะออเงิน อยากให้นำนโยบาย"ออกกำลังกายห่างไกลโรค" กลับไปเป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย เพราะเป็นนโยบายที่เป็นประโยชน์ จะลดการเข้าโรงพยาบาล ตามที่ได้ดำเนินการมาในอดีต ขณะที่ ตัวแทนชมรมส่งเสริมและพัฒนากีฬาอีสปอร์ต เสนอแนะการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเด็กติดเกม พร้อมส่งเสริม การพัฒนากีฬาอีสปอร์ตอยากให้บรรจุเป็นนโยบายในการพัฒนาประเทศ
ตัวแทนจากชุมชน แอเน็กเขตสายไหม ขอบคุณ น.อ.อนุดิษฐ์ ลงมาส่งเสริมการพัฒนา การทำน้ำหมักชีวภาพ แก้ปัญหาน้ำเน่าเสียในชุมชน เหมือนที่ได้ดำเนินการมาโดยตลอด ส่วนประธานชุมชนหมู่บ้านเสริมศิริ ร้องขอการจัดสรรงบประมาณ เพื่อหาจุลินทรีย์มาทำน้ำหมักชีวภาพแก้ไขปัญหาน้ำเสีย
คุณหญิงสุดารัตน์ เปิดเผยหลังการรับฟังปัญหาโดยระบุว่า มาวันนี้ เหมือนได้กลับมาบ้านหลังแรก เพราะ เป็นส.ส.ครั้งแรกที่เขตบางเขน และได้เจอผู้สนับสนุน คนแรกคือ"ลุงชวน" เจอปัญหามาหลากหลาย โดยเฉพาะปัญหาเรื่องขยะ และเรื่องการจราจร พวกเราเติบโตได้เพราะพวกเราก็รับฟังความคิดเห็น ของประชาชน พวกเราเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง มารับฟังความคิดเห็น รับฟังปัญหา รับฟังคำแนะนำ เราจะรับทุกคำแนะนำ ไปร้อยเรียงเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับทุกท่าน ถึงเวลาแล้วที่จะทำให้ความสุขกลับคืนมาอย่างแท้จริง ถึงเวลาแล้วที่จะทำให้เงินในกระเป๋าที่มันแฟบ กลับมาพองโตอีกครั้ง ชอบประโยค ที่ระบุว่า อย่าให้เสียงกระซิบของคนรวยดังกว่าเสียงตะโกนของคนจน
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า จะรับแนวทางการแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพ ด้านการระบายน้ำ และการทำถนน รวมถึงการแก้ไขปัญหาจราจร จะรวบรวมข้อมูลข้อเสนอไปสู่การแก้ปัญหาวันนี้มาด้วยหัวใจจริง มาเพื่อจะรับฟังสิ่งที่เป็นความทุกข์สิ่งที่เป็นความเดือดร้อนของพ่อแม่พี่น้องทุกท่านและเราจะใช้ปัญญา ไปรวบรวมกลั่นกรอง นำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง โดยจะให้ความมั่นใจใน 2 เรื่องว่า เราเป็นนักการเมืองพันธุ์ที่ฟังเสียงประชาชนเคารพความคิดเห็นของประชาชนและเราเชื่อในศักยภาพของคนไทยที่จะร่วมคิดร่วมจับมือกันเพื่อหาทางออกจากความทุกข์ของทุกท่านให้ได้ วันนี้เราจับมือกันเอาปัญหาที่ต่างทุกข์ มาวางไว้ด้วยกัน มาร่วมกันแก้ไขปัญหาความทุกข์ด้วยกัน เชื่อมั่นว่าถ้าเราจับมือกันแล้วทุกปัญหาจะสามารถแก้ไขได้ เรามั่นใจว่าวันนี้ประชาชนจะเดินร่วมทางไปกับเรา มันถึงเวลาแล้ว เวลาที่จะคืนความสุขสู่คนไทยและถึงเวลาแล้วที่จะเพิ่มเงินในกระเป๋าที่แฟบให้มันพองขึ้นมาให้ได้
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า ที่นี่เป็นที่ที่ทำให้สุดารัตน์เกิดทางการเมือง วันนี้ดีใจที่ได้กลับมาในพื้นที่ที่เกิดทางการเมืองในครั้งแรกและดีใจที่มีทีมงานที่เข้มแข็งในเขตนี้ ที่นำโดย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ที่จะมาสานงานต่อในพื้นที่ที่รัก ที่เราเกิดและเชื่อมั่นว่าทีมงานของเราที่มี จะคืนความสุขให้ท่านได้อย่างแท้จริง
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีทำนายว่านายกรัฐมนตรีคนต่อไปจะหน้าตาคล้ายเดิม คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ไม่ขอทำนาย เพราะไม่ใช่หมอดู แต่ปล่อยให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน ส่วนเรื่องยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง และนโยบายพรรคตอนนี้ทีมงานของพรรคได้หาข้อมูลและประชุมเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จเร็วๆนี้ และจะได้เปิดเผยนโยบายหลังปลดล็อกทางการเมือง พร้อมย้ำว่านโยบาย “เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส” ที่ใช้มาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย ก็จะถูกนำมาสานต่อ