วิป สนช.โวประชาชนร้อยละ 99 หนุนปลดล็อกกัญชา “วิชา” เชียร์ให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย ขณะที่ “วิรัตน์” หนุนปลดแอก “พืชกระท่อม”ด้วยมาใช้ด้วย
เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) และคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สนช. มีการสัมมนา “สนช.ปลดล็อกกัญชา เป็นยารักษาโรค” มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)เป็นประธาน
นายสมชาย แสวงการ เลขานุการ กมธ.วิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(วิป สนช.) กล่าวว่า ขณะนี้ สนช. 44 คนได้เสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ เพื่อปลดล็อกกัญชา กระท่อมออกจากยาเสพติดประเภทที่ 5 ให้นำไปใช้ทางการแพทย์ เพื่อรักษาโรคได้ จากการเปิดรับฟังความเห็นร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์ของ สนช.มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็น 16,431 คน มีผู้เห็นด้วย 16,288 คน คิดเป็น ร้อยละ 99.13 มีเพียง ร้อยละ 0.8 เท่านั้นที่ไม่เห็นด้วย
นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ประธาน กมธ.สาธารณสุข กล่าวว่า ผลวิจัยต่างๆยืนยันตรงกันว่า กัญชานำมารักษาโรคบางโรคได้ เช่น บรรเทาอาการปวดจากมะเร็ง แก้คลื่นไส้อาเจียนจากการใช้คีโมและโรคปลอกประสาทอักเสบ สนช.เสนอแก้ไขกฎหมายเพื่อให้ใช้ทางการแพทย์เท่านั้น เนื้อหาร่างใหม่มี17 มาตรา จะกำหนดขอบเขตพื้นที่ให้ปลูกและวิจัยทดลองกัญชาตามพื้นที่ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)กำหนดเท่านั้น จะเร่งพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวเสร็จให้ทันก่อนสิ้นเดือนธ.ค.นี้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่แก่คนไทย
ด้านนายวิชา มหาคุณ อดีตกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ไม่อยากให้คิดว่ากัญชาเป็นพืชเสพติด ถ้าเป็นยารักษาโรคได้ อย่างไรก็ตาม หากจะพัฒนากัญชาเป็นยารักษาโรค ต้องให้ประชาชนเข้าถึงได้ ไม่ใช่ให้แต่ภาคอุตสาหกรรม เอกชนใหญ่เข้าถึงได้ฝ่ายเดียว ต้องป้องกันไม่ให้มีการผูกขาดสัมปทาน แต่การปลดล็อคจะต้องมีการควบคุมดูแลให้มีประสิทธิภาพ รวมถึงต้องรองรับงานวิจัยเรื่องการใช้กัญชารักษาโรคที่เคยมีมาแล้ว อย่าให้เรื่องนี้เป็นประเด็นที่ถูกขัดขวาง
นายวิรัตน์ กัลยาศิริ อดีตส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นอกจากกัญชาแล้ว ขอฝากสนช.ให้ช่วยพิจารณาพืชกระท่อมด้วย เห็นด้วยเรื่องนำกัญชามาทำกับแพทย์แผนไทย แต่เรื่องการผลิตจะต้องเปิดกว้าง เช่น โอท็อปก็ต้องทำได้ จะต้องสร้างเงื่อนไขให้น้อยที่สุด ไม่เช่นนั้นจะถูกครอบงำโดยบริษัท