“อัจฉริยะ” ยื่นสรรพากรตรวจสอบ “ประจักษ์ชัย-เมีย-ลำไย” (คลิป)

2018-10-30 12:30:03

“อัจฉริยะ” ยื่นสรรพากรตรวจสอบ “ประจักษ์ชัย-เมีย-ลำไย” (คลิป)

Advertisement

“อัจฉริยะ”เดินหน้าฆ่าลูกเดียวเช็กบิล “ประจักษ์ชัย-เมีย-ลำไย” ยื่นกรมสรรพากรตรวจสอบการเสียภาษี พร้อมยื่น ปปง.ตรวจสอบฟอกเงิน ลั่นไม่เจรจาแล้ว เดินหน้าบังคับใช้กฎหมายเต็มที่ จัดให้วันละคดีทั้งแพ่งและอาญา

เมื่อวันที่ 30 ต.ค. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางไปยื่นหนังสือต่ออธิบดีกรมสรรพากร เพื่อขอให้ตรวจสอบการเสียภาษีของนายประจักษ์ชัย ไหทองคำ ภรรยา และ ลำไย ไหทองคำ นักร้องชื่อดัง  หลังตรวจสอบพบว่าที่ผ่านมามีรายได้กว่า 100 ล้านบาท

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ร้องขอให้อธิบดีกรมสรรพากรตรวจสอบการเสียภาษีของ นายประจักษ์ชัย ภรรยา และลำไย ไหทองคำ รวมถึงเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรที่ส่อไปในทางทุจริตเคสนี้ด้วย ในส่วนที่เชื่อว่าน่าจะมีการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีทั้งภาษีรายได้บุคคลธรรมดา และนิติบุคคล โดยจะตรวจสอบย้อนหลังตั้งแต่ปี 2559-2561 ทั้งนี้มีหลักฐานคือภาพแสดงคอนเสิร์ตทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงคนเข้าไปดูยูทูบกว่า 600 ล้านวิว ซึ่ง 1 ล้านวิวก็ประมาณ 3 หมื่นบาท 600 ล้านวิวก็ประมาณ 18 ล้านบาท





นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า บริษัทไหทองคำ เรคคอร์ดไม่ได้มีการจดทะเบียนนิติบุคคลตั้งแต่ปี 2559-2560 นายประจักษ์ชัยไม่เคยมีหุ้นส่วนในบริษัทไหทองคำ เรคคอร์ด มีเพียงภรรยาเท่านั้น ซึ่งมีการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 30 ม.ค.2561 ดังนั้นลำไย ไหทองคำ นายประจักษ์ชัย และภรรยา มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี เชื่อว่าทั้ง 3 คนไม่มีการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และทำผิดเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงการเสียภาษี

“รายได้ของลำไยไม่ต่ำกว่าวันละ 1.5 แสนบาท 1 เดือน ก็ 4.5 ล้าน ปีหนึ่งเท่าไหร่ กฎหมายสรรพากรระบุเลยว่า ถ้ารายได้บุคคลเกิน 1.8 ล้านต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม จากการตรวจสอบทั้ง 3 คนไม่ได้เสียภาษีมูลเพิ่ม และเพิ่งมาจดทะเบียนนิติบุคคลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ไม่มีนายประจักษ์ชัยเป็นหุ้นส่วน ผมมีสิทธิ์ร้องเรียนได้อยู่แล้ว เพราะเรื่องดังกล่าว เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ที่มีทั้งความผิดทางแพ่งและอาญา ในวันที่ 31 ต.ค. จะเดินทางไปร้องเรียนต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กับทั้ง 3 คน ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน กรณีที่บุคคลหลีกเลี่ยงภาษีมากกว่า 10 ล้านขึ้นไป”นายอัจฉริยะ กล่าว





นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ จะยื่นฟ้องนายประจักษ์ชัย ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และพ.ร.บ.คุ้มครองเด็กในกรณีที่นำภาพน้องอาม ชุติมา ตอนเด็กไปเผยแพร่ทำให้คนเข้าใจผิด พร้อมเรียกค่าละเมิดจำนวน 5 ล้านบาท

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ส่วนการเจรจาตกลงกันก่อนหน้านี้ที่เหมือนจะได้ข้อยุติแล้วนั้น เป็นการเจรจาผ่านพระผู้ใหญ่ และนายกสมาคมนักร้องลูกทุ่งเป็นตัวกลาง เมื่อวันที่ 28 ต.ค.โดยนายประจักษ์ชัยอยากขอเจรจาเพื่อยุติปัญหา และยินดีจะฉีกสัญญาเก่าทิ้ง ซึ่งฝ่ายนายประจักษ์ชัย เป็นฝ่ายร่างสัญญาใหม่ขึ้นมาเอง พอใจกันทั้งสองฝ่าย มีการยืนยันว่าจะสามารถยุติเรื่องได้ ตามนัดหมายเดิมวันนี้ไม่เกิน 12.00 น. จะมีการแถลงข่าวร่วมกัน แต่ปรากฎว่ามีการไปฟ้องศาลทรัพย์สินทางปัญญาเรียกค่าเสียหาย 21 ล้านบาท ตนจึงถามกลับไปยังผู้ใหญ่ที่เป็นตัวกลางเจรจา พบว่าไม่สามารถตอบได้ ขนาดพระยังหลอกได้ คิดเอาก็แล้วกันจะไปเชื่อถืออะไรกับคนแบบนี้ ส่วนตัวไม่ได้มีความแค้นอะไรกัน เมื่อมีการเจรจากันแล้วแต่อีกกลับไปยื่นฟ้อง ก็ต้องไปถามบุคคลที่เป็นตัวแทนเจรจา ทั้งพระที่วัดไผ่ล้อม และนักร้องลูกทุ่งรุ่นใหญ่



นายอัจฉริยะ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังมีการติดต่อไปยังหนุ่ม กรรชัย ขอให้เป็นคนกลางในการติดต่อตนกับ ทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ไปคุยกันนอกรอบเพื่อหาข้อยุติ สุดท้ายก็หลอกอีก มันไม่ใช่ ถามว่า การฟ้องเรียกค่าเสียหายกับอามถึง 21 ล้านบาท เอาตรรกะอะไรมาคิด เพราะให้ค่าจ้างกับอามเพียงวันละ 5,000 -10,000บาท ฟ้องแบบนี้เป็นการทำลายจิตใจเด็กหรือเปล่า การเอาเปรียบสังคมโดยทำสัญญาทาสอยู่แล้ว แล้วมาฟ้อง 21 ล้านบาท ไม่รู้เอาสมองอะไรมาใช้ การให้ทนายไปฟ้องข้อหาละเมิดนั้นเป็นการฟ้องผิดศาลรู้หรือไม่ ศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯคือเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ แต่ถ้าการฟ้องผิดสัญญาต้องไปฟ้องศาลยุติธรรม นักกฎหมายบ้านนอกถึงไม่รู้มาหลงกรุง ขณะนี้ศาลยังไม่มีการประทับรับฟ้อง เพราะต้องไต่สวนมูลฟ้องก่อน รวมถึงเรื่องที่ตนเองจะไปยื่นวันนี้ด้วยเช่นกัน



นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า ยืนยันอีกว่าไม่มีการเจรจาแล้ว เดินหน้าฆ่าลูกเดียว ทำใบมรณบัตรให้ล่วงหน้าแล้ว บอกเลยว่าจะมีคดีให้เขาทุกวัน ๆ ละคดี จะเดินหน้าคดีอาญาและแพ่ง ที่วังสามหมอก็จะยื่นดำเนินคดีกักขังหน่วงเหนี่ยวจะจัดให้ทุกวัน และวันพรุ่งนี้ฝากติดตามตอนเที่ยงจะแถลงข่าวการยึดอายัดทรัพย์สินของไหทองคำแรคคอต อย่างไรก็ตามการร้องเพลงอามยังสามารถร้องเพลงได้ ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจการจับกุมน้องอามได้แน่นอน เชื่อมั่นว่าตำรวจไทยไม่เป็นเครื่องมือของนายทุนแน่นอน



“เงื่อนไขที่เราทำไปก่อนหน้านี้ที่เราทำไป คือ น้องอามสามารถร้องทั้ง 3 เพลงได้ คุณไม่มีสิทธิ์จะมาเรียกรับผลประโยชน์ ยูทูบน้องอามก็สามารถทำได้ตามปกติ ยกเลิกสัญญากันตั้งแต่ทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ลิขสิทธิ์เป็นของเขา 9 ปี จากนั้นเป็นของน้องอามเหมือนเดิม ถ้าสัญญาไม่ได้ระบุเวลา คือ 10 ปี การจะโอนสิทธิ์หรือไปขายให้คนอื่นต้องได้รับความยินยอมจากเรา การจะขายสิทธิ์คนจะมาซื้อสิทธิ์ต่อต้องเอาสัญญาฉบับนี้ไปอยู่ด้วย ถามว่าแฟร์ไหม ทุกอย่างแฟร์หมด เขาจะเสียตรงไหน เขากอบโกยไปเท่าไหร่แล้ว”อัจฉริยะ กล่าว



นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า 3 เพลงคือ เพลงผู้สาวขาเลาะ อดีตเคยพัง ภาพเก่า เรายืนยันจะไม่ร้อง วันนี้ใช้กฎหมายสู้กันตามกระบวนการยุติธรรม ตนไม่คุย ตนไม่อยากเจรจาด้วยซ้ำไป ในวันศุกร์นี้จะฟ้องต่อศาลธัญบุรี และศาลทรัพย์สินอยู่แล้ว แต่เขาชิงฟ้องก่อน 21 ล้านบาท วันนี้มีทนายความมากกว่า 20 คน เพื่อให้น้องอามได้รับความเป็นธรรม โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เรื่องนี้จะเป็นบรรทัดฐานต่อไปด้วย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ประจักษ์ชัย”ฟ้อง “อาม ชุติมา” 21.6 ล้าน (คลิป)

“อัจฉริยะ” เผย “ประจักษ์ชัย” ขอเจรจาฉีกสัญญา “อาม ชุติมา” (คลิป)

ขอบคุณเฟซบุ๊ก : ประจักษ์ชัย ไหทองคำ,ลำไย ไหทองคำ