เมืองคอนระอุ! ประกบยิงถล่ม “ผู้ใหญ่บ้าน” ดับอนาถ

2018-10-30 11:45:18

เมืองคอนระอุ! ประกบยิงถล่ม “ผู้ใหญ่บ้าน” ดับอนาถ

Advertisement

มือปืนตามประกบยิงถล่มผู้ใหญ่บ้านคนดังเมืองคอนดับอนาถบนสะพานกลางหมู่บ้าน ตร.ตั้ง 4 ประเด็น เรื่องถูกร้องเรียนทุจริตกองทุนหมู่บ้าน, ปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่,การเมืองท้องถิ่น และประเด็นสุดท้ายเรื่องชู้สาว

เมื่อวันที่ 30 ต.ค. พล.ต.ต.ฐากรู เนตรพุกกณะ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้พ.ต.อ.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.โชคดี ศรีเมือง ผกก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ลงพื้นที่เพื่อควบคุมและอำนวยการสอบสวนคลี่คลายคดีคนร้ายตามประกบยิงถล่มสังหาร นายสานนท์ อรชร อายุ 52 ปี หรือ “ผู้ใหญ่นนท์” ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.เชียรเขา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา

โดยได้เชิญ พ.ต.อ.มณเทียร เบ้าทอง ผกก. เกียรติ พ.ต.ท.กิตติภณ สายสุรีย์ รองผกก.ป. พ.ต.ท.มนต์ชิต เพ็งแก้ว รองผกก.สส. พ.ต.ท.พีระพงศ์ ยอดสุรางค์ รองผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.สนั่น มณีฉาย สวป. พ.ต.ท.ทวี พลฤทธิ์ สว.สส.เข้าร่วมประชุมอย่างเคร่งเครียด ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 22.00 น. คืนที่ผ่านมา (29 ต.ค.) พ.ต.ท.อภิสิทธิ์ สุวรรณรัตน์ สว.(สอบสวน) สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต เหตุเกิดบนสะพานหนองไม้แก่น ถนนสายเฉลิมพระเกียรติ – เชียรเขา หมู่ 2 ต.เชียรเขา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งหลังรับแจ้ง พ.ต.อ.มณเทียร เบ้าทอง ผกก. สภ.เฉลิมพระ แพทย์เวร รพ.เฉลิมพระเกียรติ และอาสาสมัครมูลนิธิประชาร่วมใจ รีบรุดไปที่เกิดเหตุเพื่อร่วมกันชันสูตรพลิกศพ




บนสะพานหนองไม้แก่นพบศพนายสานนท์ อรชร อายุ 52 ปี หรือ “ผู้ใหญ่นนท์” ผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านดังกล่าว นอนตายจมเลือดในสภาพคว่ำหน้ากับพื้นปูนขอบสะพานในชุดสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้น ลายหมากรุกสีขาว–ดำ นุ่งกางเกงขายาวสีดำ โดยมีรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีแดง–ขาว ทะเบียน คบฉ – 256 นครศรีธรรมราช ล้มทับขาอยู่ จากการตรวจสอบพบบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนลูกซอง เข้าที่ชายโครงขวา จำนวน 3 แผล กระสุนบางส่วนฝังใน และทะลุชายโครงซ้าย 1 แผล ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนลูกซองตกอยู่บนพื้นสะพาน 3 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่านายสานนท์ ผู้ตาย เป็นผู้ใหญ่บ้านในท้องที่เกิดเหตุ และเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รุ้จักกันอย่างกว้างขวางคนหนึ่ง ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถ จยย.มาตามถนนสายดังกล่าว และมีคนร้ายไม่ทราบชื่อและจำนวนใช้อาวุธปืนลุกซองยิงถล่มใส่นายสานนท์ 3 นัดซ้อนจนนายสานนท์ พลัดตกจากรถ จยย.เสียชีวิตคาที่ โดยชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงให้ข้อมูลกับตำรวจว่าได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด เมื่อเสียงปืนเงียบจึงพากันออกมาดู พบร่างของนายสานนท์นอนตายอยู่บนสะพาน จึงแจ้งตำรวจให้ทราบดังกล่าว



ทางด้าน พ.ต.อ.มณเทียร เบ้าทอง ผกก.สภ.เฉลิมพระเกียรติ เปิดเผยว่า ในขณะเกิดเหตุไม่มีผู้ใดเห็นเหตุการณ์ แต่จากการสอบสวนสืบสวน การตรวจที่เกิดเหตุและการรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ ทราบว่า ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ กลับจากทำธุระที่บ้านของญาติในหมู่บ้าน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ น่าจะถูกคนร้ายซึ่งยังไม่ทราบว่าใช้ยานพาหนะใด ขับตามประกบ ก่อนจะใช้อาวุธปืนลูกซองยาวที่คาดว่าน่าจะเป็นปืนลูกซองยาวกึ่งอัตโนมัติหรือลูกซองห้านัด ยิงถล่ม เป็นเหตุให้นายสานนท์ ผู้ตายพลัดตกจากรถ จยย.รถเสียหลักล้มทับร่างเสียชีวิตคาที่ หลังก่อเหตุเหตุคนร้ายพากันหลบหนีไป โดยในเบื้องต้นตำรวจได้ตั้งปมสังหารไว้ 4 ประเด็น ประเด็นแรกคือความขัดแย้งเรื่องเงินกองทุนหมู่บ้าน

ประเด็นที่ 2 คือ ปัญหาจากการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีทั้งเรื่องที่ผู้ตายร้องเรียน หน่วยงานบางหน่วยงาน ข้าราชการบางหน่วย เรื่องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในขณะที่ผู้ตายก็ถูกร้องเรียนในเรื่องความไม่โปร่งใสในการปฏิบัติงานเช่นเดียวกัน

ประเด็นที่ 3 เรื่องการเมืองท้องถิ่น เกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้บริหาร สมาชิกองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงตำแหน่งผู้นำท้องถิ่นบางตำแหน่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เนื่องจากผู้ตายกับพวก ได้เคลื่อนไหวเพื่อสนับสนุนพรรคพวกของตนลงสมัครรับเลือกตั้ง แข่งกับทีมผู้นำท้องที่ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบันอย่างออกหน้าออกตา



ส่วนประเด็นสุดท้าย คือ เรื่องชู้สาวแนวทางสืบสวนสอบสวนมีข้อมูลว่า ผู้ตายไปติดพันหญิงสาวหน้าตาดี ซึ่งมีครอบครัวอยู่แล้ว สร้างความโกรธแค้นให้กับสามีและญาติ ๆ ของหญิงสาวดังกล่าว จนนำมาสู่การไล่ยิงถล่มฆ่าโหดนายสานนท์ดังกล่าว

ผกก.สภ.เฉลิมพระเกียรติ กล่าวอีกว่า ในขณะนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งสอบสวนสืบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัด โดยให้ตรวจสอบภาพวงจรปิดตามจุดต่าง ๆ ที่คาดว่าคนร้ายใช้พาหนะขับผ่านในช่วงเวลาที่เกิดเหตุหรือใกล้เคียงกับเวลาเกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบว่าคนร้ายใช้รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ในส่วนที่เกี่ยวข้องทุกด้านในการเร่งคลี่คลายคดี สรุปสาเหตุที่แน่ชัด และติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.