เกิดโศกนาฏกรรมครั้งเลวร้ายกับเครื่องบินโดยสารของอินโดนีเซียอีกครั้ง เมื่อเที่ยวบินเจที610 ของสายการบินไลอ้อน แอร์ ประสบอุบัติเหตุตกกลางทะเล ไม่ทราบชะตากรรมผู้โดยสารและลูกเรือ 189 คน
เจ้าหน้าที่รัฐบาลอินโดนีเซีย เปิดเผยวันนี้ว่า เครื่องบินโดยสายเที่ยวบิน เจที610 ของสายการบิน ไลอ้อน แอร์ พร้อมผู้โดยสาร 189 คน ประสบอุบัติเหตุตกลงในทะเลนอกชายฝั่งเกาะชวา ของอินโดนีเซีย ไม่นานหลังจากทะยานขึ้นจากกรุงจาการ์ตา มุ่งหน้าสู่เมืองปังกัลปีนัง เมืองใหญ่ในหมู่เกาะบังกาเบอลีตุงของอินโดนีเซีย โดยเครื่องบินขาดการติดต่อกับศูนย์ควบคุมภาคพื้นดินไม่กี่นาทีหลังบินขึ้น ยังไม่มีความชัดเจนว่า จะมีผู้รอดชีวิตหรือไม่ เครื่องบินลำนี้ เป็นเครื่องบินโบอิง 737 MAX 8 ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ด้วย
ยูซุฟ ลาติฟ โฆษกของสำนักงานค้นหาและกู้ภัยของอินโดนีเซีย กล่าวว่า เที่ยวบิน เจที610 ขาดการติดต่อ 13 นาทีหลังบินขึ้น และแถลงเพิ่มเติมว่า เรือลากที่เดินทางออกจากเมืองท่าในกรุงจาการ์ตา เห็นเหตุการณ์ตอนเครื่องบินตกด้วย นอกจากนี้ ยังได้รับการยืนยันแล้วว่า พบเศษชิ้นส่วนที่เชื่อว่าเป็นของเครื่องบินลำดังกล่าว ซึ่งรวมทั้งที่นั่ง ใกล้ชายฝั่งในทะเลชวา เศษชิ้นส่วนต่าง ๆ ถูกพบใกล้กับพื้นที่ที่เครื่องบินขาดการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ควบคุมการบินภาคพื้นดิน
เครื่องบินลำนี้ บินออกจากกรุงจาการ์ตา เมื่อเวลา 06.20 น. เช้าวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ 06.30 น. ตามเวลาในไทย มีกำหนดเดินทางถึงสนามบินเดปาตี อามีร์ ในเมืองปังกัลป์ปีนัง ในเวลา 1 ชั่วโมง แต่เดินทางไปได้ 13 นาทีก็ขาดการติดต่อ
ส่วนดานัง เปรียนโดโก หัวหน้าสำนักงานค้นหาและกู้ภัย กล่าวกับสำนักข่าวท้องถิ่นว่า ก่อนหน้านั้น นักบินขอบินกลับท่าอากาศยานนานาชาติซูการ์โน-ฮัตตา ในกรุงจาการ์ตา
ในระหว่างแถลงข่าว เจ้าหน้าที่กล่าวว่า เครื่องบินโดยสารลำนี้ มีผู้โดยสารเป็นผู้ใหญ่ 178 คน, ทารก 1 คนและเด็กเล็กอีก 2 คน รวมทั้งนักบิน 2 คน และพนักงานต้อนรับบนเครื่องอีก 5 คน
ด้านเจ้าหน้าที่ของคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งของอินโดนีเซีย กล่าวว่า เขายังไม่สามารถยืนยันถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ซึ่งจะต้องรอการเก็บกู้กล่องบันทึกการบินให้ได้ก่อน
