ศาลพิพากษายกฟ้อง“อลงกรณ์”คดีแจ้งความเท็จกล่าวหา ผบก.สพ.-บิ๊ก สตช. – ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ร่วมกันทุจริต จัดซื้อเสื้อเกราะ 2,000 ตัวมูลค่า 32 ล้านบาท
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 29 ต.ค. ที่ห้องพิจารณา 807 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายอลงกรณ์ พลบุตร อายุ 62 ปี อดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบการทุจริต ของคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาล และผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาฟังคำพิพากษา ในคดีที่พนักงานอัยการคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้องนายอลงกรณ์ เป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความอันเป็นเท็จ กรณีเมื่อวันที่ 11 ส.ค.2546 จำเลยได้แจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ต่อ พ.ต.ท.สมควร พึ่งทรัพย์ และ พ.ต.ต.ปีะหยัด เฮ้ารัง พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ว่า พล.ต.ต.ประเสริฐ พิทักษ์ธรรม ผู้บังคับการกองสรรพาวุธ (ผบก.สพ.) กองสรรพาวุธ สำนักงานส่งกำลังบำรุง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และ พล.อ.ทศรฐ เมืองอ่ำ ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ร่วมกันทุจริต ในการจัดซื้อเสื้อเกราะอ่อนป้องกันกระสุน ระหว่าง องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก กับ กองสรรพาวุธ สตช.จำนวน 2,000 ตัวราคาตัวละ 16,000 บาท รวมเป็นเงิน 32 ล้านบาท ซึ่งไม่โปร่งใส ราคาแพงเกินจริง เพื่อนำไปปฏิบัติงานในภาคใต้ ซึ่งล้วนเป็นเท็จ ทำให้ พล.ต.ต.ประเสริฐ และ พล.อ. ทศรฐ ได้รับความเสียหาย ซึ่งคดีนี้นายอลงกรณ์ ได้รับการประกันตัว
ทั้งนี้ศาลพิพากษายกฟ้องคดี เนื่องจากเห็นว่า นายอลงกรณ์กระทำตามหน้าที่ส.ส.ฝ่ายค้านที่ต้องตรวจสอบการทำงานของรัฐแทนประชาชน รวมถึงตรวจสอบแล้งพบว่า นายอลงกรณ์ไม่ได้มีความขัเแย้งส่วนตัวกับโจทก์ แม้ว่าภายหลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ชงป ตรวจสอบพบว่า ข้อกล่าวหาที่นายอลงกรณ์ระบุว่าการจัดซื้อเสื้อเกราะ มีการทุจริต จะพบว่าไม่เป็นความจริง แต่ศาลมองว่าในขณะนั้น นายอลงกรณ์จำเป็นต้องเข้าเเจ้งความเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศ
ด้านนายอลงกรณ์ ยอมรับว่า คำพิพากษาดังกล่าสทำให้สบายใจมากยิ่งขึ้น เพราะถือเป็นคดีสุดท้ายที่ถูกฟ้องร้อง แต่ก็ต้องรอดูว่าอัยการจะยื่นอุทธรณ์คดีหรือไม่