กรมอุทยานฯ พร้อมให้ความช่วยเหลือครอบครัวเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าห้วยขาแข้งที่ถูกน้ำป่าพัดสูญหายจนเสียชีวิตขณะกลับจากการลาดตระเวน
เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 21 ต.ค.เวลา 17.20 น. นายสมชาย ขันธารักษ์ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าเขาบันได ได้รับแจ้งว่าพนักงานพิทักษ์ป่าของหน่วย ชื่อนายปกรณ์ ปักกะฐิน ได้ถูกน้ำป่าพัดหายไปขณะเดินทางกลับจากการลาดตระเวนเพื่อมายังหน่วยพิทักษ์ป่าเขาบันได ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง หลังได้รับรายงานนายธานี วงศ์นาค หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง พร้อมผู้ช่วย และเจ้าหน้าที่ส่วนจัดการที่ 2 (ชับป่าพลู) จำนวน 11 นาย ออกเดินทางไปยังหน่วยพิทักษ์ป่าเขาบันได ถึงหน่วยเวลา 23.00 น. เนื่องจากมีฝนตกลงมาตลอดทาง
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ที่ร่วมปฏิบัติงานลาดตระเวนในครั้งนี้ได้ความว่า คณะเจ้าหน้าที่รวม 4 นาย ประกอบด้วย นายพงษ์เพชร ผิวอ่อนดี นายอนุสรณ์ สุวรรณ นายปัญญา บุนดี และนายปกรณ์ ผู้เสียชีวิต ได้ออกลาดตระเวน เพื่อตรวจพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค. จนกระทั่งเมื่อวันที่ 21 ต.ค. ระหว่างเดินทางกลับมาที่หน่วยพิทักษ์ป่าเขาบันได ระหว่างทางจะต้องว่ายน้ำข้ามลำห้วย 2 สาย คือ ลำห้วยขาแข้ง จากนั้นจะใช้แพไม้ไผ่ข้ามต่อ เมื่อมาถึงฝั่งสามแยกห้วยขาแข้งกับห้วยแม่ดี จึงได้วางเป้ลง เพื่อเดินหาจุดข้ามน้ำห้วยแม่ดีมายังหน่วยพิทักษ์ฯ ซึ่งจุดข้ามอยู่ห่างจากจุดวางเป้ ประมาณ 150 เมตร เมื่อมาถึงบริเวณจุดที่คาดว่าจะว่ายน้ำข้ามได้ ซึ่งในขณะนั้นน้ำในห้วยแม่ดีไหลเชี่ยว และมีปริมาณน้ำมาก นายปกรณ์ เป็นคนแรกที่กระโดดลงไป พวกตนสังเกตเห็นนายปกรณ์ ถูกน้ำตีกลับเข้ามาในฝั่งแต่ยังเห็นนายปกรณ์สามารถลอยตัวอยู่ในน้ำ พวกตนทั้ง 3 จึงกระโดดตามลงไป เมื่อขึ้นฝั่งหน่วยพิทักษ์ป่าแม่ดี พวกตนกลับมองไม่เห็นนายปกรณ์จึงได้ร่วมกันค้นหา พบบริเวณดังกล่าวมีปริมาณน้ำมาก และไหลเชี่ยว ไม่สามารถลงไปค้นหา จึงพากันเดินหาบริเวณใกล้เคียงแต่ไม่พบ จึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาให้ทราบ
ต่อมาเวลา 24.00 น. เมื่อสอบถามรายละเอียดทางเจ้าหน้าที่จึงได้เดินลงไปดูจุดที่ทั้ง 3 คน ขึ้นฝั่งมา พบปริมาณน้ำลดลง แต่ยังไหลเชี่ยวและแรงอยู่ จึงยังไม่สามารถข้ามฝั่งไปตรวจสอบได้ เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันวางแผนเพื่อติดตาม กระทั่งเวลา 02.00 น. เจ้าหน้าที่ได้วิทยุแจ้งหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยมดแดงขอกำลังเจ้าหน้าที่สนับสนุนการค้นหา และวิทยุแจ้ง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งให้จัดส่งอุปกรณ์ ประกอบด้วย เสื้อชูชีพ เชือกมะนิลา และเชือกไนล่อน ไฟส่องสว่าง สำหรับใช้ปฏิบัติงาน
วันที่ 22 ต.ค.กำลังเจ้าหน้าที่จำนวน 20 นาย ทำการค้นหาตั้งแต่จุดที่ทั้ง 4 คน กระโดดลงน้ำเพื่อข้ามมายังฝั่งหน่วยพิทักษ์ป่าเขาบันได จนไปถึงสามแยกห้วยขาแข้ง-ห้วยแม่ดี ระยะทางประมาณ 400 เมตร โดยชุดเจ้าหน้าที่ทีมค้นหาต้องข้ามน้ำไปยังฝั่งที่ทั้ง 4 คน กระโดดเพื่อจะข้ามมา โดยต้องใช้เชือกขึงสำหรับเกาะข้ามไป นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่ จากหน่วยกู้ภัยประจำจังหวัดอุทัยธานี อีก 20 นาย และเจ้าหน้าที่อนามัย บ้านใต้เพื่อเข้าช่วยค้นหาในครั้งนี้แต่ยังไม่พบผู้สูญหาย
วันที่ 23 ต.ค.เวลา 07.30 น. เจ้าหน้าที่ได้นำเรือของทีมกู้ภัยอุทัยธานีเพื่อทำการค้นหา จนกระทั่ง เวลา 08.07 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหาได้พบร่างนายปกรณ์ นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตกลางลำห้วยขาแข้ง โดยห่างจากจุดที่กระโดดน้ำ ประมาณ 5 กิโลเมตร จึงร่วมกันนำร่างของนายปกรณ์ มายังหน่วยพิทักษ์ป่าเขาบันได และประสานพนักงานสอบสวน สภ.บ้านไร่และแพทย์เพื่อชันสูตรพลิกศพก่อนส่งให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป
สำหรับนายปกรณ์ ปักกะฐิน เป็นพนักงานราชการ ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า อายุ 34 ปี เป็นชาว จ.บึงกาฬ ทั้งนี้นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ทราบเรื่องตั้งแต่นายปกรณ์ถูกน้ำป่าพัดสูญหายไป และได้สั่งการให้เร่งติดตามช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ทัน ทั้งนี้นายธัญญา กล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักในครั้งนี้ อีกทั้งยังได้กล่าวชื่นชมถึงความเสียสละต่อการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องทรัพยากรธรรมชาติที่มีความเสี่ยงของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าทุกๆคน การสูญเสียครั้งนี้สร้างความเสียใจต่อผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานเป็นอย่างมาก เนื่องจากนายปกรณ์เป็นที่รักใคร่ของเพื่อนๆ และเป็นผู้มีความตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ โดยเบื้องต้นจะดำเนินการเคลื่อนย้ายศพกลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาให้สมเกียรติตามภูมิลำเนาของผู้เสียชีวิต ในส่วนของสวัสดิการและการช่วยเหลือเบื้องต้นจะได้รับการช่วยเหลือตามสิทธิของพนักงานราชการ นอกจากนี้ยังจะได้รับเงินช่วยเหลือจากสวัสดิการกรมอุทยานแห่งชาติฯ สวัสดิการจากสหกรณ์กรมป่าไม้ สวัสดิการจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เงินช่วยเหลือจากมูลนิธิพิทักษ์ป่า เงินช่วยเหลือจากมูลนิธิเขาใหญ่ และเงินช่วยเหลือจากมูลนิธิสืบ นาคะเสถียร เป็นต้น