สลด! หนุ่มวิศวกรลูกผู้คุมเรือนจำฯ ซิ่งเก๋งชนเสาไฟฟ้าดับ

2018-10-24 11:45:55

สลด! หนุ่มวิศวกรลูกผู้คุมเรือนจำฯ  ซิ่งเก๋งชนเสาไฟฟ้าดับ

Advertisement

หนุ่มวิศวกร ลูกชายผู้คุมเรือนจำสมุทรปราการ วัยเบญจเพศ ซิ่งเก๋งชนเสาไฟฟ้าข้างทางดับ

เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.สุธาดา ศรีสุวงศ์ รองสารวัตรเวร สภ.บางปู สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งชนเสาไฟฟ้าที่บริเวณข้างตู้ยามบริการประชาชนวิทยาลัยเทคนิค สมุทรปราการ ถนนสุขุมวิท หลักกิโลเมตรที่ 33 มุ่งหน้าบางปู ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ มีผู้เสียชีวิตติดคาอยู่ในซากรถ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยอาสามูลนิธิป่อเต๊กตึ๊งและมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ นำเครื่องตัดถ่างเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า ซีวิค สีดำ ทะเบียน 2 กง 7418 กรุงเทพมหานคร ตัวรถฝั่งขวาชนอัดติดอยู่กับเสาไฟฟ้าจนตัวรถพังยับเยิน เสาไฟฟ้าขาดสองท่อนแต่ยังไม่ล้มลงมาเนื่องจากด้านบนยังมีสายไฟฟ้าดึงอยู่ ภายในซากรถตำแหน่งคนขับพบร่างของ นายกรกฎ แก้วมณี อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 339 / 7 หมู่ 5 ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ทำงานเป็นวิศวกรอยู่บริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร และเป็นลูกชายของผู้คุมเรือนจำกลางจังหวัดสมุทรปราการ ร่างถูกอัดติดอยู่กับโคนเสาไฟฟ้าจนกระดูกตามร่างกายหักหลายท่อนเสียชีวิตติดคาอยู่ในซากรถ เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้ช่วยกันใช้เครื่องตัดถ่างมาทำการตัดโครงเหล็กซากรถก่อนนำร่างของนายกรกฎผู้ตายออกมา หลังจากนั้นได้มอบให้มูลนิธินำส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช นอกจากนี้ยังทราบว่าในที่เกิดเหตุยังผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 รายเป็นสามีภรรยากันที่นั่งอยู่ที่ศาลาพักผู้โดยสารอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่ถูกเศษชิ้นส่วนและเศษกระจกของตัวรถกระเด็นมาถูกตามร่างกายได้รับบาดเจ็บมูลนิธิได้ช่วยนำส่งรักษาที่ รพ.รัทรินทร์บางปู นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังพบรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัตรช่วยเหลือเจ้าพนักงานที่จอดอยู่ในที่จอดรถด้านหลังตู้บริการประชาชนดังกล่าวถูกชิ้นส่วนของตัวรถที่เกิดเหตุกระเด็นมาใส่ได้รับความเสียหายไปอีก 3 คัน




จากการสอบถามนายอาคม สมปอง อายุ 35 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุในขณะที่ตนกำลังขับรถเพื่อที่จะกลับบ้านพักที่อยู่ในย่านบางปู โดยขับมาบริเวณเลนกลาง ในระหว่างนั้นได้มองกระจกมองหลัง ได้พบเห็นรถยนต์เก๋งจำนวน 2 คัน คันแรกสีขาว ส่วนคันที่สองสีดำ ได้ขับไล่กันมาด้วยความเร็วมาบริเวณเลนกลางซึ่งเป็นเลนเดียวกันที่ตนขับรถมา ซึ่งขณะนั้นมีรถสองแถวโดยสารสาย 36 จอดรับผู้โดยสารอยู่ที่ป้ายหยุดรถบริเวณฝั่งซ้าย ด้วยความตกใจตนจึงได้พยายามเชนเกียร์เหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วเพื่อหนีรถทั้งสองคันที่ขับมาด้วยความเร็ว แต่ไม่ทันรถทั้งสองคันขับมาเร็วมากพอมาใกล้ถึงท้ายรถของตนรถเก๋งคันแรกสีขาวได้หักหลบออกทางด้านเลนขวาแซงรถตนไป ส่วนรถเก๋งคันที่สองสีดำ ได้หักหลบออกทางด้านเลนซ้ายซึ่งเป็นเลนที่มีรถสองแถวจอดรับผู้โดยสารอยู่ซึ่งขณะนั้นมีผู้โดยสารนั่งอยู่เต็มคันรถประมาณ 10 กว่าคน ด้วยความตกใจคาดว่าผู้ตายซึ่งขับรถเก๋งสีดำที่หักออกมาทางซ้ายจึงตัดสินใจหักหลบออกมาเข้าข้างทางซึ่งมีเสาไฟฟ้าและต้นไม้ตั้งอยู่ ซึ่งคาดว่าผู้ตายน่าจะพยายามหักหลบให้เข้าช่องระหว่างเสาไฟฟ้าและต้นไม้เพื่อที่จะได้ลงไปในคลองระบายน้ำ แต่ด้วยความเร็วของรถจึงทำให้พุ่งชนเสาไฟฟ้าดังกล่าวจนทำให้ตัวเองเสียชีวิตคาที่

ขณะเดียวกันทางด้านพ่อและแม่ของผู้ตายหลังทราบเรื่องได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุ ด้ายอาการเศร้าโศกเสียใจ พร้อมทั้งเล่าว่า เมื่อช่วงหัวค่ำผู้ตายได้ขับรถคันดังกล่าวออกมาส่งน้องสาวที่ตลาดปากน้ำ และคาดว่ากำลังจะขับรถกลับบ้านพักแต่มาประสบเหตุเสียก่อนและพูดทิ้งท้ายว่า บุญเขาทำมาแค่นี้



เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง สาขาสมุทรปราการ มาทำการตัดกระแสไฟพร้อมทั้งยกเสาไฟฟ้าต้นดังกล่าวออกเนื่องจากโคนเสาไฟฟ้าต้นดังกล่าวขาดออกจากกัน และจะได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงเพื่อตรวจสอบว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างไรเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป