ตั้งรางวัล 20,000 บาท! แจ้งเบาะแสยิงสัตว์มูลนิธิฯ

2018-10-21 16:35:07

ตั้งรางวัล 20,000 บาท! แจ้งเบาะแสยิงสัตว์มูลนิธิฯ

Advertisement

เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า มอบ 2 หมื่นบาท ผู้ชี้เบาะแสนำไปสู่การนำจับคนยิงสัตว์ป่าในมูลนิธิฯ เสียชีวิต

เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ภีมพล ศรุตานันทะ ผกก. สภ.ท่าไม้รวก ต.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี พร้อมกำลังตำรวจอีกหลายนาย เข้าตรวจสอบพื้นที่ดูแลสัตว์ของมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า บริเวณ หมู่ 6 ต.ท่าไม้รวก หลังสัตว์ป่าที่ทางมูลนิธิฯดูแลอยู่ ถูกกลุ่มบุคคลภายนอกลักลอบยิงเสียชีวิต โดยมีนายเอ็ดวิน วีค เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า พร้อมนายโมธี ฉิมงาม สัตวแพทย์ประจำมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า นำเจ้าหน้าที่ดูสถานที่บริเวณที่พบสัตว์ถูกยิง

ณ จุดเกิดเหตุ พบกวางนอนเสียชีวิตอยู่ริมรั้วที่กั้นด้วยตะแกงเหล็ก ห่างจากที่ทำการสำนักงานมูลนิธิฯไปราว 200 เมตร และห่างจากจุดที่พบกวางนอนเสียชีวิต ราว 20 เมตร เป็นจุดที่พบรอยเลือดที่คาดว่าเป็นหมูป่าที่ถูกเลี้ยงไว้ในมูลนิธิฯ และจากจุดที่พบรอยเลือด มีร่องรอยถูกลากไปตามพื้นดินไปประมาณ 30 เมตร ไปยังจุดทางออก ที่กลุ่มคนที่เข้ามาล่าสัตว์ ได้ใช้อุปกรณ์ตัดตะแกงเหล็กแล้วเข้ามาล่าสัตว์ภายในศูนย์ฯ




นายเอ็ดวิน วีค เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิฯ ได้พบเก้งที่ปล่อยเลี้ยงอยู่ในพื้นที่ของมูลนิธิฯถูกยิงเสียชีวิตอยู่ริมแนวรั้วตะแกงเหล็ก ตรวจสอบพบว่ามีบาดแผลถูกยิงบริเวณอกซ้ายและขวา จึงนำไปเอกซเรย์ตรวจสอบพบเศษหัวกระสุนที่ถูกยิงแล้วอยู่ด้านในบริเวณบาดแผล ซึ่งในช่วงเช้ามืดของวันที่พบเก้งนอนเสียชีวิต มีเสียงคล้ายปืนดังขึ้นเช่นกัน แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้เอะใจเนื่องจากโดยรอบของพื้นที่ดูแลสัตว์ป่ามักจะมีเสียงคล้ายปืนดังอยู่เป็นประจำ เพราะบริเวณดังกล่าวมีสภาพเป็นป่า จะมีชาวบ้านเข้าไปหาของป่าหาเห็ดกันตลอด และมักจะจุดประทัดอยู่บ่อยๆ

และนอกจากเก้งที่พบเสียชีวิต ในช่วงเวลาประมาณ 08.00 น. ของวันเดียวกัน ได้มีชาวบ้านแจ้งว่าพบหมูป่านอนเสียชีวิตอยู่ในป่าใกล้พื้นที่ดูแลสัตว์ป่า แต่เมื่อทางเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบกลับไม่พบหมู่ป่าแล้ว และเมื่อมาตรวจสอบจำนวนหมูป่าเพศผู้ที่เลี้ยงไว้ พบว่าหายไป 2 ตัว ที่สำคัญพบหยดเลือดอยู่บ้านพื้นดินห่างจากจุดที่พบเก้งนอนตายไม่มากนัก และพบว่ามีรอยเลือดและรอยถูกลากไปยังบริเวณรั้วตะแกงเหล็กที่ถูกตัด และยังพบรอยรถยนต์จากจุดที่รั้วถูกตัดวิ่งออกไปด้านนอกด้วย ตรวจสอบพบว่าหมูป่าที่หายไป เชื่อว่าถูกยิงเสียชีวิตนั้น เป็นหมูป่าตัวขนาดใหญ่น้ำหนักไม่น้อยกว่า 150 กก. และภายหลังตรวจสอบจำนวนหมูป่ายังพบว่าหายไปอีก 1 ตัว รวม 2 ตัว และในช่วงเช้าวันนี้ยังพบว่า กวาง บริเวณที่สัตว์ป่าถูกยิงเสียชีวิต มีบาดแผลที่ตัวคาดว่าจะถูกยิงเช่นกัน แต่โชคดีไม่เสียชีวิต



ทั้งนี้ สัตว์ป่าที่เลี้ยงอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว เป็นสัตว์ป่า ที่ได้รับการช่วยเหลือหลังประสบเหตุในลักษณะต่างๆ ซึ่งทางศูนย์ฯได้รับมาดูแลจนหายเป็นปกติแล้ว ส่วนหนึ่งได้ปล่อยเลี้ยงให้อยู่แบบธรรมชาติ ในพื้นที่ในการดูแลของศูนย์ฯ จำนวน 80 ไร่ ที่เป็นพื้นที่ของวัดพระพุทธบาทเขาลูกช้าง

หลังเกิดเหตุตนได้ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ท่าไม้รวก เบื้องต้นด้วยความที่ไม่เข้าใจในรายละเอียด ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่รับแจ้งเนื่องจากขาดในรายละเอียด แต่ก็ได้ดำเนินการรับแจ้งแล้วในภายหลัง แต่ด้วยความที่เรารับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้นกับสัตว์ป่า และยังเป็นสัตว์ป่าในเขตของวัดที่เป็นเขตอภัยทานที่อยู่ในการดูแลของศูนย์ฯตนจึงได้โพสทางอินเตอร์เน็ตเพื่อบอกกล่าวให้คนทั่วไปได้ทราบและช่วยกันหาคนยิงสัตว์ที่ตายให้ได้ โดยมีรางวัลนำจับให้ 20000 บาท และวันนี้ก็พอใจสบายใจขึ้นเยอะ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจลงมาตรวจสอบพื้นที่และสืบหาพยานหลักฐานการตายของสัตว์ป่า คาดว่าน่าจะได้ผู้กระทำผิดได้ในไม่ช้านี้

นายเอ็ดวิน วีค กล่าวตอนท้ายว่า บางคนการล่าสัตว์อาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับผู้ดูแลสัตว์อย่างเราเมื่อเกิดขึ้นในพื้นที่ โดยเฉพาะเป็นพื้นที่ในเขตอภัยทานของวัดด้วย เราหนักใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บางคนอาจจะอ้างว่าเป็นคนยากจน ไม่มีอะไรกิน ต้องไปล่าสัตว์ป่ามากิน ถ้าไปล่าแบบถูกกฎหมายคงไม่มีใครว่าอะไร การล่าเพื่อนำมาให้ครอบครัวได้กินประทังชีวิตก็เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ แต่กรณีที่เกิดขึ้นกับสัตว์ป่าในมูลนิธิฯ คิดว่าเป็นการล่าเพื่อขายเพื่อธุรกิจ เรายอมรับไม่ได้ ที่สำคัญ เหตุการณ์ลักลอบเข้ามายิงล่าสัตว์ป่าในพื้นที่มูลนิธิฯ ก็เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นครั้งนี้เป็นครั้งแรก



พ.ต.อ.ภีมพล ศรุตานันทะ ผกก. สภ.ท่าไม้รวก เผยว่า ทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังพนักงานสอบสวนได้รับแจ้ง ทางตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บหลักฐานในสถานที่เกิดเหตุไปแล้ว และวันนี้ตนพร้อมพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เดินทางมาดูสถานที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อเก็บพยานหลักฐานติดตามผู้กระทำผิดเพิ่มเติม คาดว่าผู้กระทำความผิดต้องมีมากกว่า 1 คนแน่นอน ซึ่งขอเวลาตำรวจในการตรวจสอบรายละเอียดและพยานหลักฐานทั้งหมดก่อน และอาจจะต้องมีการขุดซากเก้งที่เสียชีวิตที่ถูกฝังดินไปแล้วขึ้นมาตรวจพิสูจน์อีกครั้ง รวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิด ข้อมูลบุคคลในพื้นที่ ที่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด