อังกฤษเกือบ 7 แสนเดินขบวนต้านเบร็กซิต ขอจัดแสดงประชามติใหม่

2018-10-21 10:50:34

อังกฤษเกือบ 7 แสนเดินขบวนต้านเบร็กซิต ขอจัดแสดงประชามติใหม่

Advertisement

ประชาชนเกือบ 7 แสนคนที่รณรงค์ต่อต้านเบร็กซิต หรือการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป หรืออียู ของอังกฤษ ออกมารวมตัว ชุมนุมกันเพื่อประท้วง ด้วยการใช้ชื่อการประท้วงครั้งนี้ว่า “การเดินขบวนเพื่อเสียงของประชาชน” ในใจกลางกรุงลอนดอน เมื่อวานนี้ เรียกร้องให้รัฐบาลจัดแสดงประชามติรอบ 2

โดยผู้จัดการชุมนุมครั้งนี้ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 1 แสนคน กล่าวว่า มีผู้ประท้วงถึง 670,000 คน เข้าร่วมเดินขบวน จะรวมตัวกันใกล้สวนสาธารณะ ไฮด์ ปาร์ค และเคลื่อนผ่านถนนดาวนิ่ง สตรีท และไปสิ้นสุดกันที่บริเวณจตุรัสนอกรัฐสภา ซึ่งจะมีสมาชิกรัฐสภาจากพรรคการเมืองใหญ่ทุกพรรค เข้าร่วมในการประท้วงด้วย

หากเป็นจริงตามข้อมูลนี้ การประท้วงเมื่อวานนี้ จะเป็นการประท้วงที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่ปี 2546 ซึ่งครั้งนั้นมีประมาณ 1 ล้านคนเข้าร่วมประท้วงต่อต้านสงครามในอิรักตามท้องถนนในกรุงลอนดอน




ซาดิค ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน กล่าวว่า การประท้วงในวันเสาร์ (20 ต.ค.) เป็นการ “เดินขบวนเพื่ออนาคต” เพื่อชาวอังกฤษรุ่นหนุ่มสาว ซึ่งรวมทั้งวัยรุ่นที่ยังไม่มีสิทธิ์ลงคะแนนแสดงประชามติแยกตัวออกจากอียู ในเดือนมิถุนายน 2559 อันเป็นช่วงเวลาที่กลุ่มคนที่สนับสนุนการถอนตัวออกจากอียู ซึ่งเป็นกลุ่มการค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ชนะไปด้วยคะแนนฉิวเฉียดร้อยละ 52-48 ซาดิค ข่าน จากพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน สนับสนุนข้อเรียกร้องให้มีการจัดการแสดงประชามติครั้งใหม่ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้สิทธิ์ว่า พวกเขายอมรับข้อตกลงเบร็กซิตของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ หรือเลือกที่จะอยู่ในอียูต่อไป

เขากล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่ชัดเจนคือ ทางเลือกจากนายกรัฐมนตรีเมย์ ที่กางอยู่บนโต๊ะในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อตกลงเบร็กซิตที่ผ่านความเห็นอบแล้ว หรือที่ยังไม่ได้ทำข้อตกลง ล้วนแต่เลวร้ายทั้งนั้น



ทั้งนี้ บรรดาผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งรุ่นหนุ่มสาว เป็นแกนนำในการเดินขบวนเพื่อเสียงของประชาชน ไปยังจตุรัสรัฐสภา กรุงลอนดอน ซึ่งกลุ่มผู้สนับสนุนการประท้วง กล่าวว่า สามารถดึงดูดผู้เข้าร่วมประท้วงได้ประมาณ 7 แสนคน นอกจากนี้ ยังได้เสียงสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภาอีกจำนวนมาก และผู้มีชื่อเสียงในวงสังคม ที่ต้องการให้มีการแสดงประชามติใหม่

กลุ่มผู้เดินขบวนหวังว่าพลังประชาชนจะโน้มน้าวให้รัฐบาลอังกฤษ จัดการแสดงประมติชี้ชะตาข้อตกลงเบร็กซิตครั้งสุดท้าย ซึ่งพวกเขาจะรอดูว่า รัฐบาลอังกฤษของนางเมย์ จะฟังเสียงพวกเขาหรือไม่