เพื่อปากท้อง ชีวิตนี้ขอลิขิตเอง “ภาวนาให้ทรัมป์ใจอ่อน”

2018-10-20 19:50:51

เพื่อปากท้อง ชีวิตนี้ขอลิขิตเอง “ภาวนาให้ทรัมป์ใจอ่อน”

Advertisement

นี่เป็นคาราวานของผู้อพยพชาวอเมริกากลางใหญ่ที่สุดขบวนที่ 2 ในปีนี้ อุ้มลูกจูงหลานฝ่าแก๊สน้ำตา มุ่งหน้าสู่สหรัฐอเมริกา

คงไม่มีใครอยากทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิดของตัวเอง เพื่อไปอยู่บ้านอื่นเมืองอื่น ที่ไม่คุ้นเคย ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะพบเจอสิ่งที่ดีกว่า หรือเลวร้ายกว่าเดิม ประเภทหนีเสือปะจระเข้หรือเปล่า แต่เมื่ออยู่ประเทศบ้านเกิดตัวเองก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ไม่มีงานไม่มีเงินเลี้ยงครอบครัว ก็ตัดสินใจหนีไปตายเอาดาบหน้า อาจได้ชีวิตที่ดีกว่า เช่นเดียวกับ กลุ่มผู้อพยพหลายพันคนจากหลายประเทศในอเมริกากลาง พากันอพยพออกจากบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง ข้ามประเทศ บ่ายหน้าสู่สหรัฐอเมริกา ดินแดนที่พวกเขาเชื่อว่า จะให้ชีวิตและอนาคตที่ดีกว่า

บางทีสถานการณ์ในบ้านเมืองต่าง ๆ มันก็ขึ้นอยู่กับฝีมือของผู้บริหารประเทศ ว่าจะเก่งพอในการทำให้เศรษฐกิจในประเทศขยายตัว สร้างงาน สร้างเงิน ให้ประชาชนได้หรือไม่? ซึ่งที่ผ่านมาหลายประเทศประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้ ประชาชนของตนต้องอพยพออกนอกประเทศ ไปหาน้ำบ่อหน้า




ผู้อพยพกลุ่มนี้ เดินทางมาจนถึงพรมแดนระหว่างกัวเตมาลากับเม็กซิโก แล้วก็มาติดค้างอยู่ตรงนี้ หลังจากตำรวจเม็กซิโก ปิดพรมแดนตามที่ให้คำมั่นไว้กับสหรัฐ โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตำรวจปราบจลาจลใกล้แก๊สน้ำตา ยิงเพื่อบังคับให้ผู้อพยพเหล่านี้ ถอยกลับไปอยู่บริเวณพรมแดนฝั่งกัวเตมาลา ซึ่งผู้อพยพส่วนใหญ่มาจากฮอนดูรัส แต่ก็มีผู้อพยพหลายร้อยคน ที่ฝ่าแนวกั้นหลุดข้ามสะพานที่เป็นพรมแดนกั้นกัวเตมาลากับเม็กซิโกไปได้

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ซึ่งขู่ตัดความช่วยเหลือฮอนดูรัส กรณีปัญหาผู้อพยพดังกล่าว ขอบคุณรัฐบาลเม็กซิโก ที่ขัดขวางกลุ่มผู้อพยพ ไม่ให้ข้ามพรมแดน และขู่ว่าจะส่งกำลังทหารตรึงพรมแดนและปิดพรมแดนที่ติดกับเม็กซิโก เพื่อไม่ให้กลุ่มผู้อพยพเข้าประเทศ



แต่จะป้องกันได้นานแค่ไหน?

ผู้อพยพ ซึ่งมีทั้งเด็กและคนแก่ กล่าวว่า พวกเขาเองก็พยายามที่จะหลบหนีความรุนแรงและความยากจน

จารี ดิกสัน นักการเมืองฝ่ายค้านของฮอนดูรัส ทวิตข้อความเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า คาราวานผู้อพยพไม่ได้เป็นพวก “แสวงหาความฝันอเมริกัน” (อันเป็นความฝันถึงแผ่นดินที่ซึ่งจะให้ชีวิตที่ดีกว่า ให้ความร่ำรวยได้มากกว่าและให้โอกาสแก่ทุกคนที่มีความสามารถ) แต่ “มันเป็นการหลบหนีฝันร้ายในฮอนดูรัส”



เห็นภาพความวุ่นวายที่เกิดขึ้นบริเวณพรมแดนกัวเตมาลากับเม็กซิโกแล้ว ก็ได้แต่ทอดถอนใจ ผู้อพยพบางคนพยายามหลีกเลี่ยงจุดผ่านแดนในรัฐซิวดัด ฮิดัลโก ของเม็กซิโก ด้วยการเสี่ยงชีวิตข้ามแม่น้ำซูเชียเต ที่กั้นพรมแดน 2 ประเทศ บางครอบครัวต้องพักค้างคืนที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวในรัฐซิวดัด ฮิดัลโกเมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ในฮอนดูรัส ก็มีการจัดการประท้วงเพื่อสนับสนุนกลุ่มผู้อพยพในกรุงเตกูซิกัลปา เมืองหลวงฮอนดูรัส ขณะที่ ประธานาธิบดีฮวน ออร์ลันโด เฮอร์นันเดซ ของฮอนดูรัส ขออนุญาตส่งกองกำลังป้องกันภัยพลเรือนของฮอนดูรัส ไปยังกัวเตมาลา เมื่อช่วยเหลือผู้อพยพ ทั้งผู้หญิง เด็ก คนแก่และคนป่วย

แต่ผู้อพยพแม่ลูกอ่อนคนหนึ่ง กล่าวด้วยความหวังว่า “ขอให้โดนัลด์ ทรัมป์ ใจอ่อน”