คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเงินค่าจ้างเลี้ยงคนพิการมาตรา 35 พบพิรุธสัญญาไม่ตรงตามเงื่อนไข รอง ผวจ.กาฬสินธุ์เรียกถกผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมหาทางเยียวยาผู้เสียหาย ล่าสุดมีผู้ร้องเรียนถูกยักยอกเงินค่าจ้างเพิ่มเป็นรายที่ 3
จากกรณีตัวแทนผู้ปกครองคนพิการใน จ.กาฬสินธุ์ ออกมาร้องเรียนเรื่องเงินค่าแรงผู้ดูแลคนพิการ ในโครงการจ้างเหมาบริการตามมาตรา 35 คนละ 1 แสนบาทต่อปี หรือเดือนละเกือบ 1 หมื่นบาท ถูกยักยอก ด้วยวิธีให้เปิดบัญชีทำงาน จากนั้นเก็บบัตรเอทีเอ็มและสมุดบัญชีก่อนจ่ายให้รายเดือนแค่คนละ 2,000-4,000 บาท ขณะที่มีการโอนเงินเข้าจริงเกือบหมื่นบาท ทำให้นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 20 ต.ค. นายสนั่น พงษ์อักษร รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังได้รับมอบหมายจาก ผวจ.กาฬสินธุ์ ให้เข้ามากำกับดูแลและติดตามผลการแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียน ของผู้ได้รับสิทธิ์ตามมาตรา 35 ทั้งนี้ ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการจ้างเหมาบริการ ตามมาตรา 35 โดยมีสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กาฬสินธุ์ เป็นประธานกรรมการ และกรรมการประกอบด้วยสำนักงานจัดหางาน จ.กาฬสินธุ์ อัยการคุ้มครองสิทธิ์ สำนักงานอัยการ จ.กาฬสินธุ์ ศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ และป้องกัน จ.กาฬสินธุ์
นายสนั่น กล่าวต่อว่า จากการเข้าตรวจสอบของคณะกรรมการ ทั้งในเอกสารสัญญาที่บริษัททำสัญญากับผู้ดูแลคนพิการ ตามสิทธิ์ในโครงการจ้างเหมาบริการ มาตรา 35 พบพิรุธไม่ตรงตามเงื่อนไข เช่น ในสัญญา ข้อ 2 ระบุผู้ว่าจ้างจ่ายค่าตอบแทน 109,500 บาทต่อปี ค่าตอบแทนเดือนละ 9,125 บาท หรือในสัญญาข้อ 3 ผู้รับจ้างต้องปฏิบัติหน้าที่ผู้ดูแลไม่น้อยกว่า 219 วัน ได้รับค่าตอบแทนวันละ 500 บาท หรือเฉลี่ยสัปดาห์ละ 5 วัน แต่มีการปรับและทำข้อตกลงขึ้นมาใหม่ โดยให้มาทำงานสัปดาห์ละ 3 วัน ต่อค่าจ้าง 1,000 บาท ขณะเดียวกันข้อตกลงก่อนที่จะมีการเซ็นสัญญาระหว่างบริษัทกับผู้ดูแลคนพิการ วันที่ 1ม.ค. 2561 แต่รายละเอียดในเอกสารข้อตกลงกลับระบุวันที่ทำข้อตกลงวันที่ 20 ก.ย. 2561 ซึ่งเป็นการทำข้อตกลงหลังจากทำสัญญานานกว่า 8 เดือน
“สำหรับข้อพิรุธที่ตรวจสอบพบ และประเด็นข้อสงสัยอื่นๆ จะได้ประชุมพิจารณาไปตามลำดับขั้นตอน ทั้งนี้ ในเบื้องต้นจะได้เรียกคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โครงการจ้างเหมาบริการ ตามมาตรา 35 ร่วมหารือกันในเร็วๆนี้ พร้อมกับเรียกประธานชมรมผู้ปกครองคนพิการ จ.กาฬสินธุ์ และผู้รับจ้างหรือผู้ได้รับสิทธิ์ตามมาตรา 35 มาสอบปากคำอย่างละเอียด ส่วนจะผิดถูกหรืออย่างไร ก็จะได้วินิจฉัยในลำดับต่อไป” นายสนั่น กล่าว
นายสนั่น กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ล่าสุดได้รับรายงานเพิ่มเติมจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พมจ.) กาฬสินธุ์ ในฐานะส่วนราชการที่ดูแลคนพิการว่า มีผู้ได้รับสิทธิ์ตามมาตรา 35 เข้าร้องเรียนด้วยเหตุผลเดียวกับนางฐานิดา อนุอัน ผู้ร้องเรียนรายแรก และนางราตรี คามูลทา ผู้ร้องเรียนรายที่สอง เพิ่มอีก 1 ราย สรุปมีผู้ร้องเรียน 3 ราย ทั้งนี้ได้คืนสมุดเงินฝากและบัตรเอทีเอ็ม ให้กับผู้ดูแลคนพิการแล้ว 7 ราย เหลือที่ยังไม่มารับคืน 3 ราย ซึ่งเป็นผู้ร้องเรียนนั่นเอง