“บิ๊กตู่”แจงเปิดใช้โซเชียลมีเดียหวังสื่อสาร 2 ทางกับพี่น้องประชาชน วอนใช้คำที่สุภาพ เผยมีเด็กนักเรียน เขียนมาขอคำปรึกษาเวลาตั้งใจจะทำอะไรที่น่าจะเป็นประโยชน์มักมีคนเข้ามาพูดบั่นทอนจิตใจ บอกเจอบ่อย ขอเป็นกำลังใจอย่าท้อแท้ในการทำความดี
เมื่อวันที่ 19 ต.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” ตอนหนึ่งว่า หลายท่านคงทราบแล้วว่าผมได้เริ่มมีเว็บไซต์ส่วนตัว และ ช่องทางการสื่อสารทางโซเชียลมีเดียอื่น ๆ เช่น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และทวิตเตอร์ ไปพร้อมกัน ผมก็ต้องการใช้เป็นอีกช่องทางในการสื่อสารกับพี่น้องประชาชน ในรูปแบบ การสื่อสาร 2 ทาง นอกจากจะเป็นช่องทางที่พี่น้องประชาชนจะสามารถรับรู้ รับทราบ และเข้าใจ ถึงการทำงานและนโยบายของผม และรัฐบาลได้สะดวกขึ้นแล้วก็ยังเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนสามารถจะส่งข้อเสนอแนะ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น อันเป็นประโยชน์ หรือ แจ้งความต้องการให้รัฐบาลทราบ เพื่อจะได้ลงไปดูแล หรือแก้ปัญหาในเรื่องใด ก็สามารถแจ้งเข้ามา ส่งข้อมูลเข้ามาได้
นายกฯ กล่าวว่า ถือเป็นการนำเทคโนโลยี และโซเชียลมีเดียมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับการทำงานของผม ของรัฐบาล ที่ผ่านมาก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ก็มีพี่น้องประชาชนเขียนเข้ามามากมาย ผมก็ได้ติดตามอ่านอยู่อย่างสม่ำเสมอ อะไรที่ตอบได้เองก็จะตอบไป แล้วก็จะมีทีมงานที่ช่วยคอยติดตามด้วย เพื่อจะรวบรวม สรุปข้อคิดเห็น และปัญหาต่างๆ เป็นหมวดหมู่ แจ้งให้ผมได้ทราบ เป็นระยะๆเพื่อจะได้แก้ไขปัญหาในอนาคต ผมก็จะหาเวลามาชี้แจง และตอบในประเด็นคำถามสำคัญๆ ตามช่องทางดังกล่าวด้วยตัวของผมเองอีกด้วย ล่าสุดในเฟซบุ๊ก มีเด็กนักเรียนจากต่างจังหวัด เขียนมาขอคำปรึกษาว่า ทำไมเวลาตั้งใจจะทำอะไรที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม มักมีคนเข้ามาพูดบั่นทอนจิตใจ ไม่ให้กำลังใจ ทำให้บางทีรู้สึกท้อแท้ เมื่อได้อ่าน ก็รู้สึกว่าเด็กคนนี้ต้องเจอกับสิ่งที่ผมเจออยู่บ่อยครั้ง ผมจึงขอเป็นกำลังใจให้ อยากจะบอกว่า ขอให้อดทน เราต้องไม่ท้อแท้ในการทำความดี ทำประโยชน์เพื่อสังคม อย่าปล่อยให้คำบั่นทอน หรือคำต่อว่า มาทำให้เป็นอุปสรรคในการทำความดี แต่ให้ยึดมั่นในความตั้งใจดี ทำให้ดี และ ทำให้มากขึ้น ถ้าในสังคม และประเทศไทยของเรามีคนอย่างเด็กคนนี้ มากขึ้นเรื่อยๆ ผมก็เชื่อว่า ประเทศจะสามารถเดินหน้าต่อไปอย่างมีความสุข และสงบร่มเย็นด้วย
นายกฯ กล่าวอีกว่า ส่วนในอินสตาแกรม มีเรื่องของการปฎิรูปการศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นรากฐานของการพัฒนาประเทศ ให้ยั่งยืนซึ่งรัฐบาลเอง ก็อยู่ระหว่างการเร่งหาแนวทางการพัฒนาที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย เพื่อให้ก้าวตามทันกับโลก ที่เปลี่ยนเร็วมาก และถ้าหากระบบการศึกษาของเรายังไม่เปลี่ยน วันนี้เราก็ทำหลายอย่างไปแล้ว แต่ต้องใช้เวลาในการให้เกิดผลผลิตออกมาที่มีผลสัมฤทธิ์โดยรวม เพราะว่าถ้าเราไม่เปลี่ยนแล้ว ทรัพยากรมนุษย์ที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและ การสร้างสังคมความเป็นอยู่ที่ดี อาจพบกับความยากลำบาก ในการดำรงชีวิต หรือในการทำธุรกิจ เพื่อให้แข่งขันกับต่างประเทศ ได้ดังนั้น หากพี่น้องประชาชนมีความคิดเห็นหรือ ข้อเสนอในการปรับปรุงระบบการศึกษาเพิ่มเติม ก็สามารถจะส่งกันเข้ามาได้ ผมอยากให้ช่วยกันคิดถ้าอยากให้ทำอะไรถ้าเป็นไปได้ก็กรุณาแนะนำด้วยแล้วกัน ถ้าคิดว่าสิ่งที่ตัวเองคิดนั้นเป็นประโยชน์ หรือจะเสริมเติมต่อในส่วนของรัฐบาลด้วยทั้งนี้เพื่อให้นโยบาย ตอบโจทย์ความต้องการของพี่น้องประชาชน และประเทศ ให้ได้มากที่สุด ที่สำคัญ ก็คืออยากให้เป็นการแสดงความคิดเห็นแบบมีเหตุ มีผลยอมรับความเห็นที่อาจจะแตกต่างกันได้ แล้วก็ขอให้ใช้คำพูดที่สุภาพด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องการทุจริต เรื่องปัญหายาเสพติดเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย ก็ช่วยกันส่งกันเข้ามาเยอะแยะ ทั้งหมดผมจะเก็บไว้เป็นข้อมูล และเร่งตรวจสอบ ดำเนินการให้ ผมขอฝากหน่วยงานในพื้นที่ ได้กวดขัน ดูแล และแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างเข้มงวด และใกล้ชิด บนพื้นฐานของความรับผิดชอบ ตามลำดับชั้นลงไป เพราะผมถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก