จับแล้วหนุ่มลวงสาววัย 19 ปี ลูกสาวเซียนพระไปข่มขืนกระทำชำเรา กักขังหน่วงเหนี่ยวพร้อมชิงทรัพย์
เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รรท.ผบช.น. เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่สืบสวน บก.น.7 สน.ตลิ่งชัน และ สืบสวน บก.ภ.จว.เพชรบุรี ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายศาสฑฎา บัวทอง หรือ “ท็อป” อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยที่ผู้อื่นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธในเวลากลางคืนและเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ขณะหลบหนีไปกบดานที่ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี สำหรับคดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงค่ำวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา นายศาสฑฎา ได้ชักชวน น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี บุตรสาวของนักสะสมพระเครื่องชื่อดังใน จ.ปทุมธานี ซึ่งรู้จักกันผ่านเฟซบุ๊ก ไปกินดื่มที่สถานบันเทิงในท้องที่ สน.ตลิ่งชัน พอเมาได้ที่ นายศาสฑฎา ก็ได้พา น.ส.เอ ขึ้นรถยนต์ ไปที่บ้านพักเพื่อกักขังเอาไว้ จากนั้นข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าสตางค์เอาไว้ จนกระทั่งวันที่ 6 ต.ค. นายศาสฑฎา ได้พา น.ส.เอ ขึ้นรถไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็มแล้วยึดเงินที่กดได้ไป 500 บาท น.ส.เอ ถือโอกาสนี้วิ่งหนี ไปขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดี แล้วเข้าแจ้งความกับตำรวจจนนำมาสู่การจับกุมในครั้งนี้
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้มีการคุมตัวนายท็อปไปยังศาลจังหวัดตลิ่งชัน เพื่อยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 17-28 ต.ค.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบปากคำพยานอีก 6 ปาก และรอผลตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร ขณะที่แม่ของนายท็อป ยื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 1.4 แสนบาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราว แต่ ศาลจังหวัดตลิ่งชันพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรงกระทบความรู้สึกและศีลธรรมอันดีของประชาชน ผู้ต้องหาหลบหนีไปทันทีที่เกิดเหตุ เพิ่งมามอบตัวกับพนักงานสอบสวนในภายหลังจากมีหมายจับ หากปล่อยชั่วคราวเกรงว่าจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว