ตำรวจยุติสืบคดีเกาะเต่า หลังบินไปสอบถึงอังกฤษไม่พบคราบอสุจิบนเสื้อ
เมื่อวันที่ 16 ต.ค. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดาผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (รรท.ผบช.สตม.) และคณะร่วมกันแถลงข่าวกรณีการดำเนินการตรวจสอบนักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษอ้างถูกวางยา และขโมยทรัพย์สิน
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ สอบสวนพยานใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ ไม่พบการร่องรอยการกระทำผิด และหลังจากได้ส่งพนักงานสอบสวน เดินทางไปสอบปากคำผู้เสียหาย ณ ประเทศอังกฤษ โดยผลสรุป จากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด พบว่าข้อมูลไม่เพียงพอในการดำเนินการต่อได้ในชั้นนี้ จึงยุติการสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้ไว้ก่อน ตามประเด็นดังนี้ 1.เรื่องสถานที่เกิดเหตุ พนักงานสอบสวนได้นำภาพถ่ายบริเวณจุดเกิดเหตุและใกล้เคียงให้ผู้เสียหายดู แต่ผู้เสียหายยังไม่สามารถยืนยันบริเวณที่เกิดเหตุได้ 2.ผู้เสียหายไม่สามารถยืนยันข้อมูลตำหนิรูปพรรณของคนร้ายได้ 3.เรื่องทรัพย์สินไม่สามารถยืนยันของมูลทรัพย์สินที่สูญหายได้ ยืนยันได้เพียงต้นสังกัดของบัตรเครดิตเท่านั้น 4.ผู้เสียหาย ไม่สามารถยืนยัน ถึงแผนประทุษกรรมของคนร้ายในการกระทำความผิด 5.ผลการตรวจหลักฐานที่ได้รับมอบจากผู้เสียหาย เป็นเสื้อยืด ไม่พบคราบอสุจิบนเสื้อ พบเพียงดีเอ็นเอของผู้หญิง1คน และชาย1คน ซึ่งเป็นดีเอ็นเอที่ติดเสื้อจากลักษณะการจับสัมผัสเท่านั้น
ส่วนจะดำเนินการเอาผิดกับบุคคลดังกล่าวหรือไม่นั้น พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ระบุว่า ผู้เสียหายไม่ได้มีการดำเนินการแจ้งความในประเทศไทย จึงไม่สามารถแจ้งความดำเนินคดีกลับฐานแจ้งความเท็จได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเมื่อตำรวจได้รับรู้เรื่องราวมา จึงทำการสืบสวนเพื่อให้เกิดความกระจ่าง เพราะกระทบกับภาพลักษณ์ของประเทศ อย่างไรก็ตาม เรื่องการดำเนินคดีกับเพจที่แชร์เรื่องราวดังกล่าวซึ่งแอดมิน อยู่ต่างประเทศนั้น จะใช้ขั้นตอนของกฎหมายในการดำเนินการ ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินคดีกับบุคคลที่แชร์ไปแล้ว
ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดาผบ.ตร. ระบุว่า ยังไม่พบหลักฐานใดที่จะบ่งชี้ไปว่าเกิดเหตุข่มขืนกับผู้เสียหายดังกล่าว แต่หากว่าผู้เสียหายเดินทางมาให้ข้อมูลที่เกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ของไทย ก็ยินดีจะดำเนินการสืบสวนดำเนินการตามกฎหมายให้เต็มที่