พบโครงกระดูก "เด็กแวมไพร์" ยุคโรมันอายุ 1,600 ปี

2018-10-16 06:30:24

พบโครงกระดูก "เด็กแวมไพร์" ยุคโรมันอายุ 1,600 ปี

Advertisement

คณะนักโบราณคดีนานาชาติขุดค้นพบโครงกระดูกเด็กอายุ 10 ขวบ ในแหล่งโบราณสถานยุคโรมัน ในประเทศอิตาลี ซึ่งเชื่อว่าศพถูกฝังตามพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ เพื่อป้องกันไม่ให้ศพฟื้นคืนชีพ โดยเด็กผู้เคราะห์ร้ายรายนี้อาจถูกกล่าวหาว่าเป็นแวมไพร์ หรือผีดิบดูดเลือด และถูกฆ่า และศพถูกสะกดวิญญาณ

โครงกระดูกที่ค้นพบโดยนักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยแอริโซนา หรือเอยู และมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ในสหรัฐอเมริกา ร่วมกับคณะนักโบราณคดีอิตาลี มีก้อนหินอุดในลักษณะจงใจ ในช่องปากของเด็ก ซึ่งกลุ่มผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า หินถูกจงใจอัดเข้าไปในปาก เป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมตามความเชื่อในยุคสมัยนั้น เพื่อป้องกันเชื้อโรค และป้องกันศพฟื้นคืนชีพหลังถูกฝัง

ศาสตราจารย์ เดวิด โซเรน นักโบราณคดีของมหาวิทยาลัยเอยู ที่ทำการขุดค้นสุสานโบราณในเมืองเตเวรีนา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 กล่าวว่า พิธีฝังสะกดวิญญาณ แวมไพร์ เป็นสิ่งที่ "แปลกประหลาดและน่าขนลุกอย่างยิ่ง"




ศพเด็กแวมไพร์พบในสุสานลา เนโกรโปลี ดี แบมบินี หรือสุสานเด็ก สถานที่ฝังศพย้อนหลังไปถึงยุคการแพร่ระบาดของโรคมาลาเรีย ในปี ค.ศ. 400 ซึ่งคร่าชีวิตเด็กเล็กและเด็กทารกในพื้นที่เป็นจำนวนมาก ศพเด็กอายุ 10 ปี ซึ่งตรวจวัดอายุจากการพัฒนาของฟัน แต่ไม่ทราบเพศ อยู่ในลักษณะนอนตะแคงข้าง และก่อนหน้านี้ นักโบราณคดีขุดพบโครงกระดูกเด็กหญิงอายุ 3 ขวบ ในสุสานแห่งเดียวกัน สภาพศพมีก้อนหินวางกดทับมือทั้ง 2 ข้าง และเท้าข้างหนึ่ง ซึ่งเป็นอีกรูปแบบของการสะกดวิญญาณ ตามความเชื่อของชาวโรมัน ในยุคสมัยนั้น

ศ. โซเรน กล่าวว่า ชาวโรมันมีความวิตกมากในเรื่องภูติผีวิญญาณ และแวมไพร์ บางคนถึงกับจ้างหมอผีทำพิธีสะกด เพื่อไม่ให้ผู้ตายฟื้นคืนชีพ.