หิ้ว "อส.ออย" ชี้จุดหาหลักฐานเพิ่ม เตรียมฟ้องแพ่งค่าตัวหมีขอ

2018-10-15 18:10:57

หิ้ว "อส.ออย" ชี้จุดหาหลักฐานเพิ่ม  เตรียมฟ้องแพ่งค่าตัวหมีขอ

Advertisement

ค้นหาอีก..จนท.นำ อส.ออยเข้าป่าเขาพลู ชี้จุดซุกเนื้อหมี หาหลักฐานเพิ่ม ด้านอุทยานฯ เตรียมหลักฐานฟ้องเรียกค่าตัวหมีขอ และระบบนิเวศ ส่วนผู้เชี่ยวชาญชี้ชิ้นส่วนสัตว์ป่าทำเครื่องราง ผิดกฏหมาย

กรณีปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ยพร้อมพวกกลุ่มออฟโรด 12 คน ลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรีและถูกเจ้าหน้าที่อุทยานฯไทรโยคเข้าจับกุม พบทั้งซากหมีขอสัตว์ป่าคุ้มครองหายาก และอาวุธปืนทั้งไรเฟิลและปืนพกสั้น 5 กระบอก ต่อมาได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว โดยประกันตัวเป็นเงินสดคนละ2แสนบาท ต่อมาเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม นายตาตา ชาวพม่า คนดูแลสำนักสงฆ์เต่าดำ  ซึ่งรับว่าเป็นคนยิงหมีขอ ต่อมาเจ้าหน้าที่นำตัว นายตาตา นายอนุสรณ์ หรือออย เรือนงาม อส.ด่านมะขามเตี้ย และ นายสกานต์ แก่งหลวง อส.ด่านมะขามเตี้ย 3 ผู้ต้องหาไปชี้จุดเกิดเหตุ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และนำตัวนายตาตาส่งศาล จ.กาญจนบุรีฝากขังครั้งที่ 1 ล่าสุดคณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นหาหัวหมีขอ ในลำห้วยใกล้กับที่กลุ่มอ๊อฟโรดตั้งแค๊มป์ สำนักสงฆ์เต่าดำ แต่ไม่พบตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 15 ต.ค. พ.ต.อ.ธานี สงวนจีน ผกก.สภ.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรีเปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน เจ้าหน้าที่พฐ.ภ.จว.กาญจนบุรี ตชด.136 ทหารฉก.ลาดหญ้า ได้นำตัวนายอนุสรณ์ หรือออย เรือนงาม อส.อ.ด่านมะขามเตี้ย เดินทางไปยังบริเวณ จุดที่นำซากหมีขอใส่ถุงและซากกบทูดใส่ถุง ซุกไว้โคนต้นไม้ ไม่ไกลจากศาลเจ้าพ่อเขาพลู ซึ่งห่างจากจุดที่ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานฯจับกุม ราว 1 กม. เพื่อตรวจสอบว่ามีพยานหลักฐานอื่นๆเพิ่มอีกหรือไม่ จากนั้นจะนำอส.ออยไปชี้จุดอื่นๆอีกครั้ง ว่าจะพบพยานหลักฐานใดเพิ่มขึ้นอีก




พตอ.ธานีเผยต่อว่า ในวันพรุ่งนี้เจ้าหน้าที่จะขอหมายค้นจากศาลจ.กาญจนบุรี เพื่อเข้าตรวจค้นบ้านพักนายเจนระ ไม่มีนามสกุล อายุ 29 ปี ชาวพม่า พร้อมภรรยา นส.คินหน่อยโซ ไม่มีนามสกุล อายุ31ปี บริเวณสำนักสงฆ์เต่าดำ ม.8 ต.วังกระแจะอ.ไทรโยค ซึ่งเป็นผู้ต้องหาร่วมกันชำแหละซากหมีขอ และอยู่ในระหว่างหลบหนี

สำหรับในเรื่องการดำเนินคดี เรื่องอาวุธปืนนั้น ก็ต้องรอผลพิสูจน์จากสำนักพิสูจน์หลักฐานก่อน ว่าเป็นอย่างไร จึงจะดูว่าเข้าข่ายความผิดใดบ้าง พนักงานสอบสวนก็จะเรียกผู้ต้องหา มารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป



 ด้านนายนายพนัชกร โพธิบันฑิต หน.อุทยานฯไทรโยค รรท.หน.ฉก.พญาเสือ เปิดเผยว่า วันนี้เจ้าหน้าที่อุทยานฯไทรโยคร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำตัวนายอนุสรณ์ หรืออส.ออย เรือนงาม ผู้ต้องหา เดินทางไปยังบริเวณป่าเขาพลู ม.8 ต.วังกระแจะอ.ไทรโยค อีกครั้ง เพื่อตรวจสอบค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ให้ได้มากที่สุด ส่วนในเรื่องซากหมี ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ จากสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์กรมอุทยานฯ ซึ่งใช้เวลาราว 1เดือน ก็จะทราบผลแน่ชัด และในวัน พรุ่งนี้จะนำเอกสารรายละเอียด ในเรื่องการฟ้องร้องทางแพ่ง เพื่อเรียกค่าเสียหายหมีขอที่ตาย รวมทั้งความเสียหาย ที่เกิด ต่อระบบนิเวศของป่าเขาพลู เขตอุทยานฯไทรโยค ไปส่งให้กรมอุทยานฯพิจารณา เพื่อดำเนินการต่อไป

ด้านผู้เชี่ยวชาญ ทางไสยศาสตร์วิทยาคมเครื่องรางของขลังท่านหนึ่งเปิดเผย ถึงเรื่องชิ้นส่วนต่างๆของสัตว์ป่าว่า คนไทยมักเชื่อถือเรื่องโชคลาง ของขลัง หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ สำหรับเครื่องรางของขลังที่มาจากสัตว์ป่า และเชื่อกันว่ามีฤทธิ์อำนาจ ประกอบด้วย เขี้ยวเสือกลวง คงกระพัน ยิงฟันไม่เข้า เขี้ยวหมูตัน ยิงฟันไม่เข้า ช้องหมูป่า ขนพิเศษของหมูป่า ที่ขึ้นอยู่บริเวณหัว คงกระพัน แคล้วคลาด งากำจัด เป็นงาช้างป่าที่หักคาต้นไม้ คงกระพัน เสริมบารมี เขากวางหดหรือเขากวางคุด เป็นเขาขึ้นที่กลางหน้าผาก คงกระพัน เมตตา โชคลาภ เดือยงูเหลือม จะมีเฉพาะพญางูเหลือม โชคลาภ ค้าขายดี เมตตามหานิยม กระดูกงูเหลือม เอากระดูกสันหลัง ใช้ป้องกันงูพิษ กระเบนท้องน้ำจากกระดูกของปลาโรนิน ปลาโรนัน และปลากระเบน กันภัยทางน้ำ กันคุณไสย น้ำตาพะยูน เป็นมหาเสน่ห์เช่นเดียวกับน้ำมันพราย

ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเครื่องราง ได้กล่าวในตอนท้ายว่า ในเรื่องความเชื่อไปห้ามใครไม่ได้ แต่ทุกคนควรมีสติไม่หลงงมงาย รวมทั้งสิ่งที่คิดว่ามีฤทธิ์ปาฎิหารย์ และมาจากชิ้นส่วนสัตว์ป่าต่างๆ สามารถช่วยเหลือเราได้นั้น ล้วนเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ไปบั่นทอนชีวิตสัตว์ป่า ทั้งยังผิดกฎหมายอีกด้วย