รวบ! แก๊งลอบตัดไม้พะยูง ส่งขายนายทุนประเทศเพื่อนบ้าน

2018-10-14 14:45:52

รวบ! แก๊งลอบตัดไม้พะยูง  ส่งขายนายทุนประเทศเพื่อนบ้าน

Advertisement

จับแก๊งมอดไม้ตัดไม้พะยูงจากโรงเรียน จ.กาฬสินธุ์ มาแปรรูปที่อุดรธานีเตรียมส่งนายทุนประเทศเพื่อนบ้าน

วันที่ 14 ต.ค. เวลา 10.00 น. ที่หน้ากองบังคับการ ตำรวจ ภูธร จ.อุดรธานี พ.ต.อ.วรณัฏฐ์ ผันผ่อน รรท.ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ,พ.ต.อ.คมสัน เสืออินทร์ ผกก.สภ.ดงเย็น อ.บ้านดุง ,พ.ต.ท.พิชัยรัชช์ ภูขาว รองผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี และ นายกิตติศักดิ์ นามมีฤทธิ์ หน.หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ อด.3 (ศรีธาตุ) ร่วมแถลงข่าวการจับกุม แก๊ง ลักลอบตัดไม้พะยูง ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน จำนวน 4 คน ประกอบด้วย 1.นายเด็ดเดี่ยว ผาจวง อายุ 45 ปี อยู่ที่ 37 หมู่ 9 ต.บ้านตาด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี 2. นายพุด จันทะบูรณ์ อายุ 50 ปี อยู่ที่ 10 หมู่ 10 ต.บ้านตาก อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี 3. นายสิริชัย ภูหลวง อายุ 45 ปี อยู่ที่ 115 หมู่ 7 ต.หนองหิน อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ และ 4. นางวะลาพร มูลชา อายุ 44 ปี อยู่ที่ 19 หมู่ 1 ต.อ้อมกอ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี พร้อมของกลาง ไม้พะยูงแปรรูปถากกลม 6 ท่อน ปริมาตร 0.268 ลบ.ม. , รถตู้โตโยต้า สีขาว ทะเบียน 1 ฝ 6959 กรุงเทพฯ 1 คัน , รถกระบะโตโยต้า วีโก้ 4 ปะตู สีขาว ทะเบียน 1 บร 9966 อุดรธานี 1 คัน , โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง , สว่านเจาะไม้ แบบใช้แบตเตอรี่ 1 เครื่อง , สเตย์รัดไม้ 1 เส้น , ตลับเมตร 1 อัน , แผ่นป้ายทะเบียน นร 9966 อุดรธานี 2 แผ่น และขวานถาก 1 เล่ม

โดยผู้ต้องหาทั้ง 4 ได้ทำความผิดในข้อหา “ร่วมกันทำไม้หวงห้าม โดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันมีไม้หวงห้าม (ไม้พะยูง) อันยังมิได้แปรรูป ไว้ในครอบครอง โดยไม่มีตราค่าภาคหลวง หรือ รอยตราของรัฐบาลขาย , ซ่อนเร้นจำหน่าย ช่วยนำพาเอาไปเสีย ซึ่งไม้หวงห้าม ซึ่งตนรู้อยู่แล้วว่าได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย” นอกจากนี้ทางตำรวจ ได้ตรวจสารเสพติดจากปัสสาวะของผู้ต้องหาทั้ง 4 คน พบว่าปัสสาวะเป็นสีม่วง จึงแจ้งข้อหาเพิ่ม “เสพยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 ยาบ้า โดยผิดกฎหมาย”




พ.ต.อ.วรณัฏฐ์ ผันผ่อน รรท.ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า ตำรวจ สภ.ดงเย็น พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ อด.3 (ศรีธาตุ) หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้บ้านดุง พร้อม เจ้าหน้าที่ กก.3 บก.ปทส. ปทส.ภ.จว.อุดรธานี และ ปทส.ภาค 4 รับแจ้งจากสายว่า มีการลักลอบนำไม้พะยูงมาแปรรูป อยู่ที่กระท่อมนา ด้านทิศเหนือของบ้านโนนหอม หมู่ 5 ต.อ้อมกอ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี จึงสนธิกำลังออกไปตรวจสอบจับกุม

โดยพบผู้ต้องหาทั้ง 4 คน และรถตู้บรรทุกไม้พะยูงของกลางอยู่ภายในรถ และของกลางอื่น ๆ เมื่อสอบถามหลักฐานการได้มาของไม้ ไม่สามารถนำมาแสดงได้ จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางมาทำการสอบสวน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ได้เดินทางมาตรวจสอบไม้ พบว่าไม้พะยูงของกลาง เป็นต้นพะยูงสูง 11 เมตร ที่กลุ่มคนร้ายลักลอบตัดภายใน โรงเรียนบ้านคำไฮวิทยา ต.หนองกุงศรี อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ เมื่อคืนวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยคนร้ายใช้รถกระบะขนไม้หลบหนี และทางตำรวจและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ สืบทราบว่า คนร้ายนำไม้พะยูงที่ลักลอบตัดมา มาทำการแปรรูปที่กระท่อมนาแห่งนี้ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบและจับกุมตัวพร้อมของกลางดังกล่าว



พ.ต.อ.วรณัฏฐ์ ผันผ่อน รรท.ผบก.ภ.จว.อุดรธานี กล่าวว่า สอบสวนผู้ต้องหา เบื้องต้นให้การภาคเสธ บอกว่า รับจ้างแปรรูปไม้จากผู้ว่าจ้างเท่านั้น แต่ข้อมูลของเจ้าหน้าที่ทราบว่า แก๊งดังกล่าว ลักลอบตัดไม้พะยูงตามโรงเรียน วัด ในเขตรอยต่อ พื้นที่ จ.อุดรธานี , จ.สกลนคร และ จ.กาฬสินธุ์ โดยจะลักลอบตัดทีละ 1 ต้น และนำกลับมาแปรรูปที่กระท่อมนา ก่อนจะนำไม้ไปส่งต่อนายทุนที่ชายแดน โดยทาง สภ.หนองกุงศรี ตรวจสอบ ยืนยันว่าเป็นไม้ต้นเดียวกับที่ถูกลักลอบตัดเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ที่เบื้องต้นวัดรอบแก่นไม้ สามารถเข้ากันได้กับต้นที่ถูกตัด โดยจะนำตัวอย่างชิ้นไม้ ส่งไปตรวจเปรียบเทียบ DNA กับเนื้อไม้ที่ รร.บ้านคำไฮวิทยา ที่ถูกลักลอบตัดต่อไป

ส่วนเรื่องเสพยาบ้าที่ตรวจปัสสาวะสีม่วง ผู้ต้องหาอ้างว่า เก็บยาบ้าได้ จึงนำมาแบ่งกันเสพ ซึ่งทางตำรวจไม่เชื่อ โดยจะสอบสวนว่า กลุ่มผู้ต้องหา นำยาบ้ามาจากที่ไหน ขยายผลจับกุมต่อไป รวมทั้งจะขยายผลหาตัวนายทุนที่รับซื้อไม้พะยูงด้วย โดยไม้พะยูงที่ตรวจยึดได้ครั้งนี้ มีมูลค่า 67,000 บาท แต่หากส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้ว จะมีมูลค่าสูงถึง 10 เท่า หรือมีมูลค่า 670,000 บาท ซึ่งอัตราโทษลักลอบตัดไม้หวงห้ามสูง ผู้กระทำความผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-20 ปี และปรับตั้งแต่ 5 หมื่นบาท ถึง 2 ล้านบาท จึงขอให้ผู้ที่คิดจะกระทำผิดให้เลิกเสีย เพราะทางเจ้าหน้าที่จะจับกุมให้ได้ทุกรายดังกล่าว