“สามมิตร”โวผู้สมัครเพียบทำโพลเฟ้นก่อนซบ พปชร.

2018-10-11 12:55:56

“สามมิตร”โวผู้สมัครเพียบทำโพลเฟ้นก่อนซบ พปชร.

Advertisement

โฆษกกลุ่มสามมิตรรอผลโพลวัดคะแนนนิยมก่อนหิ้ว 70 ผู้สมัคร ซบพรรคพลังประชารัฐ เผย “สุริยะ”ไม่รับตำแหน่งทางการเมือง ส่วน “สมศักดิ์” จะอยู่ในฝ่ายบริหาร ขณะที่ “อนุชา”ลงสมัคร ส.ส.เขต

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 11 ต.ค. ที่รัฐสภา นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกกลุ่มสามมิตร กล่าวภายหลังเดินทางมายื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษานายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)คนที่ 2 เพราะกำลังจะเดินเข้าสู่ถนนการเมืองอย่างเต็มตัว ว่า เกรงว่าอาจจะมีคนที่ไม่หวังดีพยายามโยงนายพีระศักดิ์ให้เป็นประเด็นทางการเมืองไปด้วย ซึ่งได้มีการพูดคุยและอธิบายให้นายพีระศักดิ์ทราบถึงเหตุผลไปแล้วก่อนหน้านี้ และเมื่อสะสางงานที่รับผิดชอบไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงได้เดินทางมายื่นหนังสือลาออกในวันนี้ ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณนายพีระศักดิ์ที่ให้โอกาสมาทำหน้าที่ที่ปรึกษา เพราะได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์เกี่ยวกับงานทางด้านฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติ ดังนั้นจะนำประสบการณ์เหล่านี้ไปใช้ในการทำงานกับกลุ่มสามมิตรและพรรคพลังประชารัฐที่กลุ่มสามมิตรจะไปสังกัดด้วย

นายธนกร กล่าวว่า สำหรับการเปิดตัวกลุ่มสามมิตรเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)นั้น ขณะนี้ทุกอย่างยังไม่เรียบร้อย เนื่องจากผู้สมัครของกลุ่มสามมิตรมีเป็นจำนวนมาก จึงต้องทำโพลสำรวจเพื่อคัดเลือก คนที่มีประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถ และใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่มากที่สุด เพราะหากมีการเปิดตัวผู้สมัครบางคนออกไปแล้ว แต่ภายหลังมีบุคคลสนใจมาร่วมงานกับกลุ่มสามมิตรอีกแล้ว ปรากฏว่ามีความใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่มากกว่าจนทำให้พรรคที่กลุ่มสามมิตรไปสังกัดนั้นต้องเปลี่ยนตัวผู้สมัคร อาจจะทำให้คนที่ถูกเปลี่ยนตัวเสียกำลังใจได้ และเป็นสิ่งที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร ซีเรียสเพราะเกรงว่าอาจจะทำร้ายจิตใจและเสียพรรคพวก ดังนั้นการคัดสรรต้องเป็นไปอย่างละเอียดจึงทำให้ล่าช้าไปบ้าง แต่คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน ต.ค.นี้




นายธนกร กล่าวด้วยว่า วันนี้กลุ่มสามมิตรจะไปร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐตามที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำกลุ่มสามมิตร เคยให้สัมภาษณ์ไว้อย่างแน่นอน เพียงแต่การจะเข้าไปสู่พรรคพลังประชารัฐนั้นคงจะต้องใช้เวลา เพราะเราจะต้องนำผู้สมัครที่มีความรู้ ความสามารถใกล้ชิดประชาชน เพื่อนำไปเสริมความแข็งแกร่งให้พรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งที่จะมาถึง เบื้องต้นกำหนดไว้จำนวน 70 คน ซึ่งรวมถึงกลุ่มมัชฌิมาของนายสมศักดิ์ เพราะกลุ่มนี้ไม่ว่าจะลงสมัครในนามพรรคใดก็ได้รับชัยชนะ สำหรับตัวนายสุริยะ ประกาศชัดเจนที่จะไม่รับตำแหน่งทางการเมือง ส่วนนายสมศักดิ์ จะอยู่ในฝ่ายบริหาร และ นายอนุชา นาคาศัย ลงสมัคร ส.ส.เขต ขณะเดียวกันส่วนตัวมีความพร้อมในการทำงานให้พรรคพลังประชารัฐ ในทุกแบบที่ได้รับมอบหมายจากผู้ใหญ่ ส่วนการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีนั้นเป็นหน้าที่การพิจารณาของคณะกรรมการบริหารพรรค แต่ส่วนตัวชื่นชมความสามารถของ พล.อ.ประยุทธ์