คุมตัว "ตั้ม" 1 ใน 25 ผู้ต้องหาคดี 2 แก๊งทะเลาะวิวาทรัวอาก้าในซอยราชปรารภไปทำแผน ผู้ต้องหาอ้างถูกคู่กรณีอีกกลุ่มหาเรื่องก่อน
เมื่อวันที่ 10 ต.ค. พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ รักษาราชการแทนรอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจ ผบก.น.1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนควบคุมตัวนายปรีชา ศักดิ์อุดมไพศาล หรือ ตั้ม มาทำแผนชี้จุดประกอบคำรับสารภาพ จำนวน 8 จุด หลักๆ อาทิ โต๊ะสนุกเกอร์ที่ทั้ง 2 กลุ่มทะเลาะวิวาทกัน และบริเวณร้านก๋วยเตี๋ยวใกล้กัน เส้นทางผ่านไปบ้านไปนายพรเทพ พุ่มพวง หรือ นายเพชร โดยผ่านร้านอาหารครัวประตูน้ำที่อยู่หัวมุม บริเวณบ้านนายเพชร ภายในซอย ก่อนที่จะตะโกนพูดคุยกัน โดยนายเพชรได้ตะโกนบอกให้ไปรอที่ลานกว้าง
พล.ต.ต.คัชชา เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหา ให้การว่า ทั้ง 2 กลุ่มมีเรื่องทะเลาะกันมาก่อนหน้านี้ อ้างว่านายพรเทพ หรือนายเพชรได้มาหาเรื่องกลุ่มของตนเองก่อน และ มีปากเสียงกัน จึงไปหยิบอาวุธปืนที่ซ่อนไว้บริเวณใต้ต้นโพธิ์ และเดินไปหานายพรเทพ หรือนายเพชรที่บ้าน ก่อนจะถูกไล่ยิงสวนออกมา แล้วตนเองหนีไปด้านหลัง และทราบว่ากระสุนปืนไปถูกคนสัญชาติลาวได้รับบาดเจ็บ
พล.ต.ต.คัชชา กล่าวต่อว่า ส่วนผลการตรวจค้น 12 จุดเป้าหมายเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พบเพียงเสื้อผ้าของกลุ่มคนร้าย ที่ใส่ก่อเหตุ2-3ชุด ทั้งนี้ จากการสอบสวน ทั้ง2กลุ่ม มีสมาชิกรวมที่ก่อเหตุประมาณ 25 คน ขณะนี้ออกหมายจับไปแล้ว 11 คน ส่วนอีก 14 คน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับ ส่วนสาเหตุที่นายตั้มเดินทางเข้ามอบตัว ได้อ้างกับเจ้าหน้าที่ว่า มีความบริสุทธิ์ใจไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อเหตุก่อน จึงเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัตินายบำเพ็ญ พุ่มพวง พ่อของนายพรเทพ ผู้ต้องหาที่ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงผู้ต้องหารายอื่น พบว่านายบำเพ็ญ เคยมีประวัติก่อเหตุพยายามฆ่าผู้อื่นในปี2540 พยายามฆ่าเจ้าพนักงานในปี2542 โทษจำคุก 5 ปี และปี2552 และ 2553 ก่อเหตุทำค้ายผู้อื่น แต่คดีได้สิ้นสุดแล้ว ส่วนการตรวจสอบกระสุนปืนที่ใช้ยิงนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเสียชีวิต เบื้องต้นจากการสอบถามแพทย์สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ระบุเบื้องต้นว่า เป็นกระสุนปืนแรงดันต่ำ ซึ่งไม่น่าจะใช้กระสุนที่ออกจากอาวุธสงคราม
อย่างไรก็ตาม หลังการทำแผนเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายปรีชา หรือตั้ม ไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังผัดแรก ส่วนจะมีการให้ประกันตัวหรือไม่ ขึ้นอยู่กับกับดุลพินิจของศาล
