“นาวิน ต้าร์”ออกโรงป้องภรรยาบริจาคน้ำนม

2018-10-08 15:35:54

“นาวิน ต้าร์”ออกโรงป้องภรรยาบริจาคน้ำนม

Advertisement

ดราม่าบริจาคน้ำนมยังไม่จบ “นาวิน ต้าร์” ออกโรงป้องภรรยาสาวคนสวยทำโครงการคิดรอบคอบแล้ว ทุกครั้งที่มีการบริจาคแพทย์ตรวจคัดกรองทั้งผู้ให้ผู้รับ ติดใจคำพูดเหน็บแนมสังคมไทยเป็น “สังคมอุดมดารา” ตอกกลับคนวิจารณ์ก็ได้แต่ยุ่งกับการ “พูด” แต่พวกเราแค่กำลังยุ่งอยู่กับการ “ทำ” ยันเดินหน้าต่อ

จากกรณีดราม่าเรื่องบริจาคน้ำนมที่ “น้ำหวาน พัสวี” ภรรยาไฮโซสาวคนสวยของ “นาวิน ต้าร์” ดารานักแสดงชื่อดัง น้ำนมเหลือและแบ่งปันให้คุณแม่ที่น้ำนมน้อย แต่ทางคุณหมอท่านหนึ่งได้ออกมาเตือนภัยในเรื่องนี้ ทำให้ “ไฮโซน้ำหวาน” ต้องออกมาเคลีย์ว่า ก่อนเธอบริจาคได้มีการตรวจโรคก่อนนั้น



ล่าสุดทาง “นาวิน ต้าร์” ได้โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรม @navintar ว่า อย่างแรกผมอยากให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของคนที่ริเริ่มโครงการแบ่งปันน้ำนมแม่นะครับ ครอบครัวของเราอาจโชคดีที่มีคุณแม่ที่มีน้ำนมเยอะ ผมอาจโชคดีที่ภรรยาผมเป็นคุณแม่ที่เสียสละยอมทุ่มเทพลังกายและพลังใจเพื่อลูกของผม บอกตามตรงเลยว่าผมเห็นใจภรรยาและรู้สึกอยากแบกภาระนี้แทนด้วยซ้ำ แต่ทั้งหมดนี้มันทำให้ผมได้เรียนรู้ว่าความเจ็บปวดที่มากไปกว่าการไม่มีเงินทองเอาไว้ใช้มันก็คือการที่เราไม่สามารถเลี้ยงดูลูกให้อิ่มท้องเพื่อให้เค้าแค่เจริญเติบโตได้ตามวิถีธรรมชาติของเค้าเองเท่านั้น และทำให้ผมพลอยเห็นใจคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่มีน้ำนมที่ติดต่อมาทางเราด้วย





นาวิน ต้าร์ ระบุอีกว่า อย่างที่สอง ผมอยากให้ทราบกันว่าเราริเริ่มโครงการนี้มาด้วยการคิดที่รอบคอบ แต่แน่นอนว่าไม่มีอะไรที่ไม่มีความเสี่ยง ทุกครั้งที่มีการบริจาคเราได้มีมาตรการด้านความปลอดภัยโดยการตรวจคัดกรองทั้งในด้านผู้ให้และผู้รับ โดยแพทย์ของเราที่สถาบันคลีนิคฟิลอก้าก็มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับการตรวจเลือดและตรวจสอบภาวะของภูมิแพ้ที่ปฏิบัติอยู่เป็นประจำในการทำงานทุกวันอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าคุณหมอของเราไม่ได้ชอบใช้เฟซบุ๊ก ในตอนนี้เราอาจจะกล่าวได้ว่า เราเป็นธนาคารนมเอกชนรายเดียวของประเทศไทยก็เป็นได้ ทางคุณพ่อคุณแม่ที่ติดต่อมาทางเราก็มีหลายท่านที่รู้จักธนาคารนมของรัฐที่ รพ.รามาธิบดี แต่ก็ยังเลือกที่จะรับความช่วยเหลือจากเราอยู่ดี



อย่างที่สาม ส่วนตัวผมคิดว่าหลายครั้งผมต้องทำหน้าที่หลายอย่างตามที่สังคมมอบหมายให้ทำ ผมไม่ได้ตัดสินใจเองด้วยซ้ำ เราไม่ได้โฆษณาให้คุณพ่อคุณแม่ติดต่อเข้ามา แต่ทุกคนเป็นคนติดต่อเข้ามาขอความช่วยเหลือเอง ทางเราเองก็ทำในส่วนของเราให้ดีที่สุด การที่สังคมจะแห่แหนไปทางไหนผมว่าเราโทษใครไม่ได้นะครับ ผมติดตรงคำพูดเหน็บแนมว่าสังคมไทยเป็น “สังคมอุดมดารา” ผมคิดว่าไม่มีสังคมไหนหรอกครับที่ขาดคนที่ดังกว่าคนทั่วไปอยู่หน่อย ผมว่าเรื่องที่สำคัญกว่ามันอยู่ที่ว่าคนดังเหล่านี้มีจิตสำนึกที่ดีต่อสังคมจริงหรือเปล่า และก็ไม่แปลกและและไม่ใช่เรื่องใหม่และไม่ใช่เรื่องผิดที่มีดาราหลายท่านที่อุทิศตนเพื่องานทางด้านสังคมโดยไม่หวังกำไร คนที่วิจารณ์ก็ได้แต่ยุ่งกับการ “พูด” แต่พวกเราแค่กำลังยุ่งอยู่กับการ “ทำ” ก็แค่นั้น ผมรู้และมั่นใจว่ากำลังทำสิ่งที่ถูก แน่ใจมากๆครับ อย่างสุดท้าย ทางโครงการแบ่งปันนมแม่ อยากจะบอกว่าเรากำลังปรับปรุงให้มีการรับบริจาคนมจากคุณแม่ที่มีน้ำนมเหลือเยอะด้วย นั่นจะเป็นก้าวต่อไปที่เราจะร่วมกันช่วยเหลือแบ่งเบาปัญหานี้ได้โดยการจับคู่แม่ที่เหลือเข้ากับแม่ที่ขาด เราตั้งใจจะทำงานนี้จริงจังโดยถ้าหน่วยงานของรัฐต้องการความช่วยเหลือทางด้านใดเรายินดี




ขอบคุณภาพอินสตาแกรม @navintar