ปิดอ่าวมาหยา 4 เดือน “ปะการัง-ฉลามหูดำ” เพิ่ม

2018-10-08 13:20:51

ปิดอ่าวมาหยา 4 เดือน “ปะการัง-ฉลามหูดำ” เพิ่ม

Advertisement

กรมอุทยานแห่งชาติฯ พาสื่อมวลชนลงพื้นที่อ่าวมาหยา ติดตามความคืบหน้าการฟื้นฟูระบบนิเวศชายหาดและแนวปะการัง เผยปิดอ่าวมาหยา 4 เดือน ปะการังมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ฉลามหูดำขนาดเล็กเข้ามาหากินบ่อยขึ้น จำนวนมากขึ้น บ่งชี้ระบบนิเวศในอ่าวมาหยากำลังเริ่มฟื้นตัว

จากกรณีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ขยายเวลาปิดการท่องเที่ยวอ่าวมาหยา จ.กระบี่ ตั้งแต่ 1 ต.ค.อย่างไม่มีกำหนด จนกว่าทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลและชายฝั่งจะกลับคืนสู่สภาวะปกตินั้น



ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ต.ค. นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ พร้อมทั้งนายทรงธรรม สุขสว่าง ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ นายดำรัส โพธิ์ประสิทธิ์ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) นายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เพื่อติดตามความคืบหน้าการฟื้นฟูระบบนิเวศชายหาดและระบบนิเวศแนวปะการังบริเวณอ่าวมาหยา และการปลูกฟื้นฟูปะการังเสื่อมโทรมในพื้นที่บริเวณอ่าวมาหยา ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่





นายจงคล้าย กล่าวว่า อ่าวมาหยาเป็นสถานที่ที่สวยงามและได้รับความนิยมอย่างยิ่งจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แต่ก็พบปัญหาเกิดขึ้นเมื่อมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มีประกาศปิดอ่าวมาหยา ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. – 30 ก.ย.2561 เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรและบริหารจัดการพื้นที่อ่าวมาหยา ให้มีประสิทธิภาพ ลดความแออัดของนักท่องเที่ยว ตลอดจนให้ธรรมชาติได้เกิดการฟื้นตัว และพบว่าปะการังมีเพิ่มมากขึ้น ระบบนิเวศมีการฟื้นตัว แต่ปัญหาที่พบก่อนจะมีประกาศปิดอ่าวมาหยานั้น คือ หาดทรายบริเวณหน้าหาดของอ่าวมาหยา ไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้ามาเหยียบย่ำบนหาดทรายตลอดทั้งปี ทำให้ทรายไหลลงสู่ทะเลขัดขวางกระบวนการเพิ่มทรายหน้าหาดตามธรรมชาติ จากคลื่นที่พัดเข้าชายหาด ส่งผลให้เนินทรายหน้าชายหาดเกิดการทรุดตัวและพังทลาย

นายจงคล้าย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้สารเคมีบางชนิดที่อยู่ในครีมกันแดด เมื่อนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ จะกระจายสู่ทะเลส่งผลทำให้ปะการังพิการหรือตาย เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดปะการังฟอกขาว ส่วนปัญหาที่เกิดจากเรือรับส่งนักท่องเที่ยวที่จอดบริเวณหน้าหาดเพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวนั้น จะมีการกวนทราย ซึ่งตะกอนเหล่านี้จะตกทับถมบนก้อนปะการัง รวมถึงการทิ้งสมอเรือเพื่อถอยท้ายเรือเข้ามายังชายหาด หรือการนำเรือเข้ามาเทียบ ชายหาดช่วงน้ำลง ส่งผลให้ปะการังได้รับความเสียหาย จากการสำรวจพบร่องรอยความเสื่อมโทรมของแนวปะการังในบริเวณกลางอ่าวมาหยา เป็นบริเวณที่เรือท่องเที่ยววิ่งผ่านด้วย”





“สำหรับวิธีการดำเนินการฟื้นฟูบริเวณรอบอ่าวมาหยา ได้แก่ การปรับสภาพภูมิทัศน์ รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเพื่อให้ชายหาดได้มีการเติมทรายตามธรรมชาติ การปลูกไม้ป่าชายหาดเพื่อช่วยลดการพังทลายของสันทราย ปลูกไม้ป่าชายหาดเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศ สำรวจการกัดเซาะชายหาด สำรวจปะการังน้ำตื้นและน้ำลึกบริเวณรอบอ่าวมาหยา ซึ่งปะการังมีแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ช่วงที่ได้มีการประกาศปิดอ่าวมาหยา นอกจากนี้ยังพบการเข้ามาหากินของฉลามหูดำขนาดเล็กบ่อยขึ้น จำนวนมากขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าระบบนิเวศในอ่าวมาหยา กำลังเริ่มฟื้นตัว มีความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำขนาดเล็กที่เข้ามาอาศัยเพิ่มขึ้น เนื่องจากไม่มีการรบกวนจากกิจกรรมการท่องเที่ยว” นายจงคล้าย กล่าว