แม่สาวพิการถูกกรีดแขนขาเหวอะขอคู่กรณีรับผิดชอบ

2018-10-02 15:25:11

แม่สาวพิการถูกกรีดแขนขาเหวอะขอคู่กรณีรับผิดชอบ

Advertisement

แม่ของสาวพิการถูกกรีดแขนขาเหวอะ ยอมรับเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากให้คู่กรณีแสดงความรับผิดชอบ

จากกรณี “น้องรัตน์” อายุ 18 ปี เด็กพิการตาบอด พูดไม่ได้ ถูกลูกชายวัย 12 ปี ของคนที่เธอไปจ้างให้ดูแลน้องรัตน์ระหว่างไปทำงานทำร้ายร่างกายด้วยการกรีดแขนขา เป็นแผลเหวอะหวะ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ทีมข่าวนิว18 ได้ไปพูดคุยกับ น.ส.สุภาภรณ์ หลิวเจริญ อายุ 46 ปี แม่ของน้องรัตน์ เปิดเผยว่า ตอนนี้อาการของน้องรัตน์ดีขึ้น แพทย์ได้เย็บแผลที่แขนขวา และขาขวาเรียบร้อยแล้ว แต่แผลยังไม่หาย มีอาการคันอย่างต่อเนื่อง จึงต้องพาไปล้างแผลทุกวัน รวมถึงอาการตอนนี้ปกติ ไม่มีอาการตกใจแล้ว ส่วนประเด็นค้างคาใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม่น้องรัตน์บอกว่า ตอนนี้พูดไม่ออก แต่อยากถามว่า หลังจากเกิดเรื่อง ทำไมไม่พาน้องรัตน์ไปโรงพยาบาลทันที เพราะกว่าจะพาไปโรงพยาบาล ต้องรอหลายชั่วโมง ตอนนี้รู้สึกจุกและเจ็บในใจมาก ยอมรับว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกสาวตน จากที่เคยเป็นเพื่อนบ้านกัน คอยช่วยเหลือกัน กลับเกิดเรื่องแบบนี้ ส่วนเรื่องจะรับผิดชอบอย่างไรนั้น ตอนนี้ทางฝั่งคู่กรณียังไม่เคยมาพูดคุยแสดงความรับผิดชอบกับตนเอง

ส่วนเรื่องของคดี ต้องปล่อยไปตามกระบวนการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งต้องรอสอบปากคำและผลตรวจจากโรงพยาบาลอย่างละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตามอยากร้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ของรัฐให้ช่วยเหลือลูกสาวของตนในระยะยาว โดยเมื่อเช้านี้มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานของรัฐเข้ามาดู พร้อมจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่





ขณะที่ นางจำรัส อยู่เย็น อายุ 78 ปี ซึ่งเป็นย่าของ ด.ช.วัย 12 ปี เล่าว่า ในช่วงระหว่างเกิดเหตุ ตัวเองไม่เห็นเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ได้เรียกหลานตัวเอง มาพูดคุยว่าทำไมถึงทำแบบนี้ หลานก็นิ่งเฉย ได้แต่นั่งมองหน้าอย่างเดียว ไม่พูดอะไร ส่วนพฤติกรรมของหลานก่อนหน้านี้ บอกว่าน้องไม่ได้เป็นเด็กเก็บกด เพราะยังเล่นสนุกกับเพื่อนตามปกติ ไม่เคยมีพฤติกรรมรุนแรง แต่ถ้าทำผิดมากหรือไปทะเลาะกับเพื่อน ย่าก็จะด่าจะตี เพราะทำตัวไม่น่ารัก ในเรื่องของความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ให้ไปถามแม่ของหลานเอง ว่าจะรับผิดชอบยังไงต่อ เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องก็ไม่เคยเอ่ยถึงกรณีนี้อีกเลย

ด้าน พ.ต.อ.ปรีชา เอี่ยมนุ้ย ผกก.สอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว และสอบปากคำเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องที่จะเอาผิดกับเด็กชายผู้ก่อเหตุ ต้องเอาผิดแน่นอน แต่ต้องรออีกหน่อย เพราะเรื่องยังอยู่ในขั้นตอนของกระบวนการรวบรวมหลักฐานอยู่