เบาบับ ต้นไม้ที่มีอยู่ทั่วไปในพื้นที่ชนบทประเทศแอฟริกาใต้ ได้รับการยกย่องว่าเป็น “ซูเปอร์ฟู้ด” จากทั่วโลก และทำให้ อันนาห์ มุฟฮาลี คุณยายวัย 52 ปี ต้องตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อมาเก็บผลของต้นเบาบับเป็นประจำทุกวัน
ผู้หญิงราว 1,000 คนในหมู่บ้านมุสโวดีดีเพนี ทางเหนือของจังหวัดลิมโปโป สร้างรายได้จากการเก็บผลของต้นเบาบับ โดยเมล็ดและผงแป้งที่อยู่ในฝักของมันกลายเป็นอาหารที่ทั่วโลกนิยมรับประทาน เนื่องจากอุดมไปด้วยวิตามิน สารต้านอนุมูลอิสระ กากใยและแร่ธาติหลายชนิด โดยเจ้าเบาบับ ถูกนำมาใช้กับอาหารหลายประเภท ทั้งผสมในน้ำอัดลม ไอศกรีม ช็อคโกแลต และจิน รวมถึงเครื่องสำอางบางชนิดด้วย
มุฟฮาลี เล่าว่า ก่อนหน้านี้เธอไม่รู้มาก่อนเลยว่าเบาบับมีค่ามากขนาดไหน ครอบครัวของเธอจะนำมาทำโจ๊กข้าวโอ๊ตรับประทาน ทั้งยังใช้เป็นยาบรรเอาอาหารปวดท้องในเด็กด้วย
ผู้หญิงในหมู่บ้านอย่าง มุฟฮาลี ต่างทำหน้าที่ “ผู้พิทักษ์เบาบับ” ที่จะคอยดูแลต้นเบาบับและจะได้รับเงินเมื่อพวกมันโตขึ้นทุกๆ หนึ่งเซนติเมตร โดยโครงการนี้เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549
ทางด้าน เอลิซา พาสวานา วัย 59 ปี ที่ทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์เบาบับ เป็นเวลากว่า 2 ปี แล้ว เล่าว่า โครงการ ผู้พิทักษ์เบาบับ ช่วยบรรเทาความยากจนของชุมชน โดยเธอได้รับเงินจากโครงการนี้ราว 21 ดอลลาร์ต่อเซนติเมตร (ราว 680 บาท)
ขณะที่ ซาราห์ เวนเตอร์ นักนิเวศน์วิทยาที่บริหารบริษัทอีโคโปรดักส์ ผู้อยู่เบื้องหลังการเก็บเกี่ยวเบาบับ กล่าวว่า ความต้องการเบาบับสูงขึ้นทุกปีนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 โดยผู้บริโภครายใหญ่คือยุโรป แคนาดาและสหรัฐอเมริกา ส่วนโครงการ ผู้พิทักษ์เบาบับ นั้นเกิดขึ้นเพื่อตอบแทนการดูแลเอาใจใส่การเจริญเติบโตของต้นไม้ของผู้หญิงเหล่านี้
