อภ.รับมอบกัญชานำมาวิจัยรักษาผู้ป่วย

นพ.โสภณ กล่าวว่า ของกลางที่ได้รับมอบในครั้งนี้ อภ.ได้ประสานขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) และ บช.ปส. โดยทีมวิจัยได้ไปเลือกคุณภาพของกลางที่ลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ เป็นพันธุ์พื้นเมือง ยึดมาได้ไม่นานจึงยังคงมีคุณภาพดี ซึ่งกัญชาทั้งหมดจะมีการตรวจศูนย์สิ่งเปื้อนก่อนนำไปศึกษาวิจัยด้วยมาตรฐานเทคโนโลยีสารสกัดและพัฒนาสูตรตำรับ เพื่อให้ได้สารสกัดต้นแบบกัญชาทางการแพทย์ ในรูปแบบน้ำมันกัญชาชนิดหยดใต้ลิ้น พร้อมจะนำไปศึกษาในผู้ป่วยเมื่อ พ.ร.บ.ยาเสพติดได้แก้ไขให้สามารถใช้รักษาผู้ป่วยได้

นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า การที่ อภ.รับกัญชาที่มีคุณภาพและคุณสมบัติที่แตกต่างกันจะทำให้สามารถทราบถึงความแตกต่างของคุณสมบัติกัญชาแต่ละชนิดว่าชนิดใดจะมีคุณภาพและลักษณะคุณสมบัติที่เหมาะสมต่อการนำมาวิจัยเพื่อใช้ทางการแพทย์หรือต้องมีการพัฒนากระบวนการสกัดกัญชาแต่ละชนิดอย่างไร คาดว่าประมาณเดือน ธ.ค.2561 จะทราบผลขั้นต้นว่าจะมีแนวทางอย่างไรในการวิจัยและพัฒนารวมถึงวางระบบบริหารจัดการนำกัญชาของกลางมาสกัดเพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยต่อไป คาดว่าภายในเดือน พ.ค.2562 จะสามารถสกัดสารจากกัญชาสำหรับพร้อมใช้ทางการแพทย์ ซึ่งจะสอดคล้องกับระยะเวลาของกฎหมายที่จะบังคับใช้ อย่างไรก็ตามกัญชาของกลาง 100 กิโลกรัมนี้คาดว่าจะสามารถสกัดกัญชาเข้มข้นได้ประมาณ 10- 15 ลิตร หรือประมาณ 18,000 ขวด

สำหรับสารสกัดจากกัญชาจะนำมาใช้กับผู้ป่วยมะเร็งที่ให้เคมีบำบัด  ลมชักในเด็ก  ปลอกประสาทอักเสบ และอาการปวดชนิดรุนแรง