ประชากรเสือที่อาศัยอยู่ในป่าตามธรรมชาติในเนปาล เพื่มขึ้นเกือบ 2 เท่าในช่วงเวลา 9 ปีที่ผ่านมา จากการเปิดเผยของทางการเนปาลเมื่อวันจันทร์ ถือเป็นชัยชนะของประเทศยากจนแห่งเทือกเขาหิมาลัย ในการรักษาสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
หลายองค์กรอนุรักษ์สัตว์ป่าต่างแสดงความยินดีต่อรายงานข่าว โดยระบุว่า ความเกี่ยวพันทางการเมือง และยุทธศาสตร์การอนุรักษ์แบบใหม่ สามารถทำให้จำนวนที่ลดลงของเสือโคร่งตีกลับได้ ผลการสำรวจเมื่อต้นปีนี้พบว่า มีเสือโคร่งอาศัยอยู่ในป่าตามธรรมชาติในเนปาลรวม 235 ตัว เพิ่มขึ้นจาก 121 ตัวในปี พ.ศ. 2552 โดยการสำรวจกลุ่มนักอนุรักษ์และผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ใช้กล้องบันทึกภาพกว่า 4,000 ตัว และช้างประมาณ 600 เชือก สำหรับการเดินทางบนเส้นทาง 2,700 กิโลเมตร ทั่วทุ่งกว้างทางภาคใต้ของเนปาล ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของเสือโคร่ง
นายมาน บาฮาดูร์ คัดกา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติและอนุรักสัตว์ป่าเนปาล กล่าวว่า จำนวนที่เพิ่มขึ้นของประชากรเสือโคร่งในป่าเนปาล เป็นผลจากความพยายามประสานงานอย่างเข้มข้น ระหว่างรัฐบาลกับชุมชนท้องถิ่น และหุ้นส่วนอื่น ๆ เพื่อปกป้องถิ่นอยู่อาศัยของเสือ และต่อสู้กับการลักลอบล่าเสือ ปัญหารการตัดไม้ทำลายป่า การบุกรุกถิ่นที่อยู่อาศัย และการลักลอบล่า ทำให้จำนวนเสือลดลงอย่างมากทั่วภูมิภาคเอเชีย
แต่ในปี 2553 เนปาลและอีก 12 ประเทศได้ลงนามให้คำมั่น เพิ่มจำนวนประชากรเสือของแต่ละประเทศเป็น 2 เท่าภายในปี 2565 ในปี พ.ศ. 2443 มีเสืออยู่ในป่าธรรมชาติทั่วโลกมากกว่า 100,000 ตัว แต่จำนวนลดลงสู่ระดับต่ำสุดตลอดกาลที่ 3,200 ตัวในปี 2553