กรมการขนส่งทางบกแจงห้ามรถตู้อายุเกิน 10 ปีวิ่งให้บริการตั้งแต่ 1 ต.ค.นี้ มั่นใจเตรียมพร้อมรองรับไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนแน่นอน
เมื่อวันที่ 24 ก.ย. นายเชิดชัย สนั่นศรีสาคร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เพื่อเตรียมมาตรการรองรับกรณีที่รถตู้โดยสารปรับอากาศร่วมบริการสาธารณะประกาศหยุดวิ่งตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ ว่า ในวันที่ 30 ก.ย.นี้จะมีรถตู้โดยสารสาธารณะทยอยครบอายุการใช้งาน แบ่งเป็นหมวดที่ 1 รถตู้โดยสารที่ใช้วิ่งใน กทม.จำนวน 954 คัน มีทั้งหมด 11 เส้นทาง ประกอบด้วย อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 260 คัน มีนบุรี 191 คัน จตุจักร 1 คัน รังสิต 28 คัน บขส. 125 คัน รถร่วม ขสมก. 480 คัน ทั้งนี้มั่นใจว่าในวันที่ 1 ต.ค.หากมีการหยุดวิ่งรถ ประชาชนจะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากทางกรมการขนส่งทางบกได้ร่วมกับ ขสมก. และ บขส. ในการนำรถเข้ามารองรับการให้บริการของประชาชน
นายเชิดชัย กล่าวต่อว่า รถตู้ที่อายุการใช้งานครบ 10 ปี จะต้องเปลี่ยนเป็นรถโดยสารขนาดเล็ก หรือ มินิบัส ที่มีจำนวนที่นั่งไม่เกิน 20 ที่นั่ง โดยทางกรมการขนส่งทางบก ธนาคารกรุงไทย บขส. และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ได้ทำเอ็มโอยูร่วมกันในโครงการ “เปลี่ยนรถตู้โดยสารประจำทางขนาดเล็กแทนรถตู้โดยสาร” มีวงเงินกู้ต่อราย 20 ล้านบาท ในอัตตราดอกเบี้ยต่ำ และประกันชีวิต วงเงินกู้โครงการรวม 2,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามล่าสุดในส่วนของผู้ประกอบการรถร่วม ขสมก. ได้ยื่นความจำนงขอเปลี่ยนรถแล้ว 500 กว่าราย ซึ่งได้ดำเนินการเปลี่ยนไปแล้วกว่า 100 ราย ทั้งนี้หากผู้ประกอบการยังฝ่าฝืนนำรถเก่ามาให้บริการ จะมีโทษปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท และจำคุก 2-5 ปี