นายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ถูกจับกุมตัวเมื่อวานนี้ และจะถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงเงินจำนวน 628 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 20,500 ล้านบาท จากกองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐ “1MDB” ที่เขาโอนเข้าบัญชีเงินฝากส่วนตัว ซึ่งข้อกล่าวหาที่ว่า นายนาจิบและคนใกล้ชิด ฉ้อโกงเงินจำนวนมหาศาลจาก 1MDB ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลที่บริหารประเทศมาอย่างยาวนานของนายนาจิบ พ่ายแพ้อย่างสุดช็อกในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ให้แก่กลุ่มการเมืองที่สนับสนุนการปฏิรูป ที่นำโดยมหาเธร์ โมฮัมหมัด
มหาเธร์ วัย 93 ปี รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 หลังจากวางมือทางการเมืองไปแล้ว รื้อฟื้นการสอบสวนคดีฉ้อโกง ใน 1MDB ที่ถูกอดีตรัฐบาลของนายนาจิบ ปิดคดีไปแล้ว และให้คำมั่นว่า จะนำตัวนายนาจิบ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งตั้งแต่สูญเสียอำนาจ นายนาจิบก็ถูกจับกุม และถูกตั้งข้อหา 7 ข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการยักยอกเงินจาก 1MDB เข้ากระเป๋าตัวเอง
อย่างไรก็ตาม การจับกุมตัวเขาเมื่อวานนี้ มีความสำคัญมาก เพราะเกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาอื้อฉาวที่ว่า เงินก้อนโตจาก 1MDB ไหลเข้าบัญชีเงินฝากส่วนตัวของเขาก่อนการเลือกตั้งที่สูสีที่สุดในปี 2556 คณะกรรมการต่อต้านการคอร์รัปชั่นมาเลเซีย ระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า การควบคุมตัวนายนาจิบ เป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนในคดีของ 1MDB และเงินจำนวน 2,600 ล้านริงกิต หรือ 628 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ถูกโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของเขา
นายนาจิบ จะขึ้นศาลในช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งเขาจะเผชิญหน้ากับหลายข้อหา ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจในทางมิชอบ