ชัยภูมิระทึก! น้ำป่าทะลักซัด 2 นร.จมดับ

2018-09-16 15:15:33

ชัยภูมิระทึก! น้ำป่าทะลักซัด 2 นร.จมดับ

Advertisement

สลด! นักเรียนโรงเรียนดัง จ.ชัยภูมิ ขี่ จยย.ฝ่าสายน้ำป่าที่ล้นสันฝายถูกน้ำพัดจมหายดับ 2 ราย จนท.ระดมช่วยค้นหาอยู่นานกว่า 7 ชั่วโมง จึงพบร่างช่วยนำขึ้นจากฝายน้ำล้น

หนึ่งในเพื่อนที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เผยนาทีระทึก!!ขณะพากันขับรถจยย.ฝ่าสายน้ำป่าที่ไหลมาจากเขื่อนลำปะทาว บนเทือกเขาภูแลนคา ได้ถูกกระแสน้ำป่าที่ไหลแรงพัดรถจจย.ตกสันฝ่าย เพื่อนๆต่างพากันกระโดดน้ำลงไปช่วยเพื่อน หลายรายต่างหมดแรงต่างพากันเกาะกิ่งไม้เอาชีวิตไม่รอด สุดท้ายจมหายไปด้วยกัน 2 ราย รอดชีวิตมาได้เพียง 5 ราย!

ในช่วงเย็นวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา ร.ต.อ. ศักดิ์สิทธิ์ ติงคะเสริด รองสารวัตรสอบสวน สภ.แก้งคร้อ รับแจ้งเหตุด่วนจากชาวบ้านว่ามีกลุ่มนักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.แก้งคร้อ จมหายลงไปในน้ำ 2 ราย ที่บริเวณฝายน้ำล้นบ้านหนองโน หมู่ที่ 11 ต.บลหนองไผ่ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ หลังรับแจ้งจึงได้รายงานไปยัง พ.ต.อ. จาตุรนต์ ตระกูลปาน ผกก.สภ.แก้งคร้อ และประสานไปยังหน่วยกู้ชีพสว่างพุทธธรรมแก้งคร้อ ออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบกลุ่มชาวบ้านจำนวนมากหลายร้อยคน กำลังยืนมุงดูเหตุการณ์อยู่ 2 ฝั่งฝายน้ำล้นดังกล่าว และบนสะพาน และขณะที่ชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้ช่วยกัน ลงงมช่วยหาร่างเด็กผู้เสียชีวิตและสามารถนำรถ จยย.ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ 100 สีเทา ขึ้นมาจากน้ำได้




แต่ด้วยกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวแรงผ่านหน้าสันฝายลงมา ในจุดที่เด็กจมหายลงไปในน้ำ ทางจนท.ทุกฝ่ายและชาวบ้านจึงยังไม่สามารถช่วยนำร่างของเด็กขึ้นมาได้ ทางด้าน จนท.ตร.จึงได้แจ้งให้ชาวบ้านที่ไม่เกี่ยวข้องเชี่ยวชาญในด้านการดำน้ำขึ้นมาจากน้ำ เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตรายและเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ก่อนที่จะเร่งประสานหน่วยชุดกู้ชีพอาสากู้ภัย หน่วยค้นหาใต้น้ำจากมูลนิธิสว่างคุณธรรมชัยภูมิ เข้ามาช่วยลงค้นหาใต้น้ำอยู่อีกนานกว่า 7 ชั่วโมง ในช่วงเกือบถึงเวลาประมาณ 22.00 น.ช่วงดึกที่ผ่านมา จึงสามารถค้นหาพบ 2 ร่างเด็กนักเรียนที่จมน้ำผู้เสียชีวิตครั้งนี้ได้ โดยพบศพของ ดญ.เอ นามสมมุติ อายุ 13 ปี นร.ชั้น ม.1 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอแก้งคร้อ ขึ้นมาได้เป็นรายแรก และอีกรายต้องใช้เวลาค้นหาห่างกันอีกกว่า 30 นาที นำขึ้นมาได้เป็นรายที่ 2 จึงพบร่างของ นายบี อายุ 15 ปี นร.ชั้นม.3 ซึ่งเป็นรุ่นพี่ของน้องเอ

จากการสอบถาม ดช.ซี หนึ่งในกลุ่มเพื่อนของผู้เสียชีวิตเล่าว่า เมื่อช่วงบ่ายได้นัดกลุ่มเพื่อนชายหญิงรวม 7คน ขับขี่ จยย.มาจากในตัวอำเภอแก้งคร้อ เพื่อมาเที่ยวยังฝายน้ำล้นสถานที่เกิดเหตุ เพื่อที่จะมาที่ถ่ายภาพบรรยากาศน้ำล้นสันฝายในช่วงนี้ เนื่องจากเห็นว่าที่นี่วิวสวยดี ซึ่งในขณะที่กำลังถ่ายรูปกันอยู่จู่ๆมีเพื่อน นร.หญิงคนหนึ่งได้ขี่ จยย.ลงไปบนสันถนนฝายน้ำล้น ซึ่งมีกระแสน้ำไหลแรง ตนเองและเพื่อนๆทุกคนก็ตะโกนห้ามแต่ก็ไม่ทันเมื่อ เพื่อนหญิงขี่จยย.ไปถึงครึ่งฝายก็ได้ถูกกระแสน้ำป่าที่ไหลมาจากเขื่อนลำประทาว ที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูแลนคา ที่ไหลแรงและเชี่ยวซัด รถจยย.และเด็กทั้ง2คนตกน้ำทั้งคนและรถ จมหายไปต่อหน้าเพื่อนที่มาด้วยกันหลังจากนั้น เพื่อนๆที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดจึงได้กระโดดน้ำลงไปช่วย แต่ด้วยกระแสน้ำพัดแรง ทุกคนก็ช่วยน้องคนที่ขับรถ จยย.ลงไปขึ้นมาได้ และพากันรีบขึ้นฝั่ง แต่กลับพบว่ามีเพื่อนทั้งหมดหายจมไปในน้ำ 2 คน ซึ่ง เด็กชายซี เล่าต่อว่าตนเองและเพื่อนอีก 4 คน ก็เกือบเอาชีวิตไม่รอดเนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวแรงมาก แทบเกือบจะหมดแรงแล้วก่อนถึงฝั่งเกือบจมลงไปใต้น้ำแล้ว แต่โชคยังดีที่ตนเองและเพื่อนพากันเกาะกิ่งไม้ริมตลิ่งไว้ได้จึงรอดชีวิตอย่างหวุดหวิดไม่เช่นนั้นคงจมน้ำไปด้วยกันทั้งหมด 7 คนอย่างแน่นอน



ด้าน ร.ต.อ. ศักดิ์สิทธิ์ ติงคะเสริด กล่าวว่า จะต้องนำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนไปตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตตามขั้นตอนเพื่อยืนยันหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้งก่อน หลังจากนั้นถ้าหากฝ่ายญาติผู้เสียชีวิตไม่ติดใจในการตายก็จะได้มอบศพเด็กทั้ง 2 คนให้ไปดำเนินการตามประเพณีต่อไป