อาจารย์ ม.จุฬาฯ ชี้ไม่ควรเสนอข่าว-ดูข่าวฆ่าหั่นศพมากเกินไป

2017-06-06 10:55:07

อาจารย์ ม.จุฬาฯ ชี้ไม่ควรเสนอข่าว-ดูข่าวฆ่าหั่นศพมากเกินไป

Advertisement

ดร.วีระพงษ์ ประสงค์จีน อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยว่า หากเรารับสื่อที่มีเนื้อหาความรุนแรงจะส่งผลกระทบทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ

สิ่งที่หลายคนสงสัยว่า เนื้อหาความรุนแรงจะส่งผลกระทบทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบได้อย่างไรนั้น ดร.วีระพงษ์ แจงว่า เนื้อหาความรุนแรงมีส่วนให้เกิดพฤติกรรมที่มีแนวโน้มให้ที่จะทำพฤติกรรมคล้ายกัน แต่ว่าคงไม่ใช่ 100%  พอเวลาเราอ่านข่าวหรือรับข่าวอะไรแล้วจะทำให้เราเป็นอย่างนั้นทั้งหมด เวลาที่เราได้รับข้อมูลข่าวสาร ได้เห็นภาพ ได้ยินเสียง หรือได้รับข้อมูลอะไรก็แล้วแต่ มันจะถูกส่งไปยังสมองเพื่อที่จะทำให้เราจดจำ จะจดจำโดยที่เราตั้งใจมีสติสัมปชัญญะ หรือว่าอาจจะจดจำโดยที่เราไม่รู้ตัวสมองก็ยังเก็บข้อมูลเอาไว้อยู่ธรรมชาติการทำงานของสมอง และในสมองของคนเรามีกลุ่มเซลล์ประสาทที่เรียกว่าเซลล์ประสาทกระจกเงา (mirror neurons) กระจกเงาก็คือกระจกที่เราใช้ส่องเวลาแต่งตัว แต่งหน้าหรือเอาไว้สะท้อนเงาตัวเองเวลาทำกิจกรรมอะไรต่างๆ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ชาวอิตาลีค้นพบว่าเซลล์ประสาทกระจกเงานี้เมื่อเราเห็นก็เหมือนกับเราได้ทำ อย่างเช่น ถ้าเราเห็นภาพคนขับรถก็เหมือนกับว่าเรากำลังขับรถด้วย หรือ ขณะที่เราดูกีฬาบาสเกตบอลเซลล์ประสาทที่ควบคุมการเคลื่อนที่การเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อในการเล่นบาสเกตบอล ก็จะเคลื่อนไหวเสมือนกับว่าเรากำลังเล่นกีฬานั้นๆอยู่คล้ายกับกรณีที่เด็กไม่ควรดูความรุนแรงเพราะว่าสมองของเด็กยังถูกฝึกให้มีวิจารณญาณ ถ้าเด็กมาดูเรื่องเปรี้ยว ฆาตกรหั่นศพ หรือดูหนังฆาตกรรม เด็กก็สามารถซึมซับและเซลล์ประสาทกระจกเงาจะสะท้อนให้เด็กมีพัฒนาการเป็นแบบนั้นเพราะว่าสมองเด็กยังไม่มีการรู้จักผิดชอบชั่วดี
ส่วนวิธีการสลัดภาพความรุนแรงคือเราควรงดบริโภคข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับความรุนแรงลง ถ้าเกิดเปิดแล้วไปเจอก็พยามลดไม่ใส่ใจกับข่าวนั้นๆมากนัก รู้เพียงครั้งเดียวพอแค่ให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เป็นอย่างไร มีผลสรุปยังไง แค่นั้นจบ ไม่ควรไปรับรู้รายละเอียดลึกๆ เพราะอาจจะให้ภาพนั้นติดตาและไม่ให้สมองของเรารับข้อมูลในทางลบที่เยอะเกินไป