สร้างความเศร้าสลดใจให้กับแฟนๆ และคนในวงการบันเทิงไทยอย่างมาก สำหรับข่าวการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของอดีตพระเอกชื่อดัง “โอ-วรุฒ วรธรรม” โดยพิธีบำเพ็ญกุศลศพจะมีขึ้นที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร จ.เชียงใหม่ เป็นเวลา 7 วัน และจะเก็บศพไว้ ณ วัดคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่แห่งนี้เป็นเวลา 100 วัน เพื่อให้บรรดาแฟนคลับและคนทั่วไปได้เข้ามาเคารพศพ
ย้อนกลับไปศึกษาประวัติความเป็นมาของวัดพระสิงห์ วรมหาวิหาร มีใจความสำคัญว่า วัดแห่งนี้จัดเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ตั้งอยู่เลขที่ 2 ถ.สามล้าน ต.พระสิงห์ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ตั้งอยู่ในเขตกำแพงเมืองเก่า ลักษณะพื้นที่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีเนื้อที่ 25 ไร่ 2 งาน 25 ตารางวา มีถนนล้อมรอบวัดทั้ง 4 ด้าน ทิศเหนือติดถนนอินทวโรรส ทิศตะวันออกติดถนนสามล้าน ทิศใต้ติดถนนแสนเมืองมา ทิศตะวันตกติดถนนอินทวโรรส
วัดพระสิงห์ วรมหาวิหาร สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.1888 โดยพญาผายู กษัตริย์เชียงใหม่ องค์ที่ ๕ แห่งราชวงศ์มังราย พญาผายูได้นำอัฐิ พญาคำฟู ผู้เป็นราชบิดา ซึ่งครองอยู่เมืองเชียงแสนมาบรรจุในสถูปประดิษฐานไว้ ณ ที่แห่งนี้ แล้วสร้างเป็นขึ้น ซึ่งเดิมทีเรียกวัดแห่งนี้ว่า วัดลีเชียงพระ เพราะที่บริเวณหน้าวัดเป็นสถานที่ค้าขายของชาวเมือง จนกลายเป็นตลาดลีเชียงพระ และเรียกชื่อวัดว่า "วัดลีเชียงพระ"
ต่อมาประมาณ พ.ศ. 1943 เจ้ามหาพรหม กษัตริย์เมืองเชียงราย ได้อัญเชิญ พระพุทธสิหิงค์ หรือพระสิงห์ ซึ่งได้มาจากเมืองกำแพงเพชร นำมาถวายพญาแสนเมืองมากษัตริย์เชียงใหม่ พญาแสนเมืองมาได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ หรือพระสิงห์ประดิษฐานไว้ที่วัดลีเชียงพระประชาชนจึงเรียกวัดลีเชียงพระว่า "วัดพระสิงห์" นับตั้งแต่นั้นมา
วัดพระสิงห์ วรมหาวิหาร ได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ ยกฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิด วรมหาวิหาร เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2483 ตรงกับรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อานันทมหิดล รัชกาลที่ 8
