หนุ่มศรีสะเกษบุกร้องกองปราบถูก ตร.ยิง 4 นัด แต่โดนแจ้งข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน
เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายจักรพงศ์ อยู่แย้มศรี อายุ 33 ปี ชาวศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายปริญ เกษะศิริ ทนายความ เดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อร้องขอความเป็นธรรมและแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจ สภ.แห่งหนึ่งใน จ.ศรีสะเกษ ในข้อหาร่วมกันทำพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ แจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญา และปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ รวมถึงข้อหาพยายามฆ่า โดยอ้างว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 24 พ.ย.2560 นายจักรพงศ์ ถูก ตำรวจใช้อาวุธปืนยิง 4 นัด เข้าบริเวณลำตัว แต่ตำรวจแจ้งกับทางโรงพยาบาลที่รับคนเจ็บไปรักษาว่า กำลังตรวจค้นยาเสพติด นายจักรพงศ์ขัดขืนพยายามใช้มีดแทง ตำรวจจึงใช้ปืนยิงไป 1 นัด เมื่อแพทย์ตรวจรักษาพบรูกระสุนเข้าไม่มีรูออก 4 แห่ง คือบริเวณหน้าท้องด้านซ้าย ขาหนีบด้านซ้าย ก้นด้านซ้าย และก้นด้านขวา ซึ่งขัดแย้งกับที่เจ้าพนักงานตำรวจแจ้ง
นายจักรพงศ์ กล่าวว่า วันเกิดเหตุมีปากเสียงกับแม่ต่อมาแม่โทรแจ้งตำรวจ เมื่อได้ยินเสียงรถมาจอดหน้าบ้านรู้ตัวอีกทีพบตำรวจกำลังลงจากรถเพื่อเข้ามาภายในบ้าน ทำให้ตกใจคว้ามีดทำครัวขึ้นมาเพื่อป้องกันตัว ตำรวจจึงวิ่งกลับไปที่รถ พอเดินตามไปดูก็ได้ยินเสียงปืนขึ้นมา 2 นัด จากนั้นก็ล้มฟุบไป แต่เห็นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยื่นปืนออกมายิงขณะกำลังนั่งอยู่บนรถ หลังจากนั้นระหว่างอยู่ในโรงพยาบาลมีตำรวจมากล่อมให้รับสารภาพ เพราะเป็นคดีเล็กๆเสียค่าปรับเท่านั้น โดยมีการสัญญาว่าจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ แต่พอเรื่องถึงชั้นอัยการ ทางอัยการบอกว่าโทษคดีนี้ไม่น้อย เพราะถือเป็นการพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน และต้องมีคนมาประกันตัวด้วย
นอกจากนี้ ในรายงานแพทย์ยังระบุไว้ว่า ตำรวจแจ้งว่าจะตรวจค้นยาเสพติด และครั้งที่ 2 แจ้งว่าจะระงับเหตุเมาสุรา แต่การแจ้งข้อกล่าวหากลับคนละเรื่องกัน มาร้องเรียนวันนี้เพราะการถูกแจ้งข้อหาว่าพยายามฆ่าเจ้าพนักงานนั้น ถือเป็นข้อหาที่ร้ายแรงเกินไป ซึ่งคดีหลักตอนนี้ที่อยู่ในชั้นอัยการสอบสวนนั้นขอให้อัยการช่วยสอบสวนในหลายๆประเด็นแล้วเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำและดำเนินการส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาต่อไป