เทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศกวาดล้างกลุ่มหัวรุนแรงสุดโต่งทางศาสนาอย่างแข็งกร้าว หลังถูกโจมตีบ่อยครั้ง และย้ำพอกันที ขณะที่ ตำรวจเผยสาดกระสุนเข้าใส่ผู้ก่อการร้าย 3 คนถึง 50 นัด จึงหยุดคนร้ายได้
มาร์ค โรว์ลีย์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจกรุงลอนดอน เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสาดกระสุนเข้าใส่ผู้ก่อการร้าย 3 คนที่ก่อเหตุใช้มีดไล่แทงผู้คนใกล้สะพานลอนดอน บริดจ์ กลางกรุงลอนดอน เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ประมาณ 50 นัดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ 8 นาย ซึ่งเป็นการสาดกระสุนชุดใหญ่เข้าใส่คนร้ายเพียง 3 คน อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ถือว่าเป็นสถานการณ์การเผชิญหน้าครั้งสำคัญ ซึ่งหมายถึงชีวิตและความตาย เพราะคนร้ายทั้ง 3 คนมีอาวุธ สวมเสื้อรัดเข็มขัดระเบิดฆ่าตัวตาย หลังจากที่พวกเขาก่อเหตุขับรถไล่ชนและใช้มีดไล่ฟันประชาชนเสียชีวิตไป 7 ราย และบาดเจ็บประมาณ 50 คน บนสะพานลอนดอนบริดจ์ และตลาดโบโรที่อยู่ใกล้เคียงกัน โดยกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส ออกมาอ้างความรับผิดชอบในการก่อเหตุ ขณะที่ ผู้บาดเจ็บ 21 คน ยังอาการสาหัส ส่วนเหยื่อที่เสียชีวิตจากความโหดร้ายป่าเถื่อนครั้งนี้ เป็นชาวแคนาดาคนหนึ่ง ที่เหลือเป็นชาวอังกฤษ ฝรั่งเศส ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลกรุงลอนดอน ได้จับกุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 12 คน ในย่านบาร์กกิ้ง เขตลอนดอนตะวันออก ในข้อหามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีดังกล่าว ด้านนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ผู้นำหญิงของอังกฤษ กล่าวด้านนอกบ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิ่ง สตรีท ทำเนียบนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีการลดธงชาติลงครึ่งเสาด้วย ให้คำมั่นว่าจะต่อสู้กับอุดมการณ์ชั่วร้ายของกลุ่มหัวรุนแรงสุดโต่งทางศาสนา และยืนยันว่า การเลือกตั้งทั่วไปในวันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายนนี้ จะต้องเดินหน้าต่อไป แต่เธอก็เสนอให้ออกกฎระเบียบใหม่ทางด้านไซเบอร์สเปซด้วย และว่า อังกฤษอดทนมากเกินไปแล้วกับกลุ่มผู้มีความคิดรุนแรงสุดโต่งทางศาสนา เมย์ กล่าวด้วยว่า มันถึงเวลาแล้ว ที่ต้องพูดว่า พอกันที ไม่เอาอีกแล้ว
บ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิ่ง สตรีท ประกาศว่า สหราชอาณาจักรจะไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิตจากการโจมตีครั้งนี้ ด้วยการยืนสงบนิ่ง 1 นาที ในเวลา 11.00 น.ของวันอังคารที่ 6 มิถุนายน
