อย.เตือนอย่าหลงเชื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อ้างสามารถรักษาโรคทางตา ระบุอาจทำให้โรคตาที่เป็นอยู่มีความรุนแรงขึ้น
เมื่อวันที่ 5 ก.ย. นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวพบผู้ป่วยสูญเสียดวงตาข้างขวาจากการติดเชื้อรุนแรง ซึ่งมีสาเหตุมาจากการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “พลูคาว” มาหยอดตาเพื่อรักษาอาการต้อกระจก นั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีความห่วงใย ได้ตรวจสอบตรวจพบเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มาขออนุญาต อย. ใช้ชื่อ คอลดาต้า (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร น้ำพลูคาว) สถานที่ผลิตที่จ.ขอนแก่น ซึ่งจากการตรวจสอบการกระทำผิดพบว่า อย. เคยดำเนินคดีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการโฆษณากับผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่ายแล้ว ทั้งนี้ อย. ห้ามมิให้โฆษณาเผยแพร่ในเชิงก่อให้เกิดความเข้าใจผิดว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสามารถบำบัด รักษา หรือบรรเทาโรคใด ๆ หรือหยอดตา แต่อย่างใด
รองเลขาธิการ อย. กล่าวต่อว่า ขอให้ผู้ประกอบการทั้งผู้ผลิต ผู้จำหน่าย โดยเฉพาะพนักงานขายตรง และสื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์ ควรมีคุณธรรม จริยธรรม และความปลอดภัยต่อผู้บริโภค อย่ากระทำการโฆษณาที่อวดสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะกล่าวอ้างรักษาสารพัดโรค จนทำให้ผู้บริโภคหลงเชื่อ สำหรับกรณีผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “น้ำพลูคาว” ที่เป็นปัญหา วันนี้ อย. ได้ตรวจสอบสถานที่จำหน่าย คือ บริษัท คิงส์ เฮิร์บเวิลด์ 1999 จำกัด ตั้งอยู่เขตบางเขน กทม.พบเป็นสถานที่จำหน่ายแบบขายตรง MLM มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่จ.ขอนแก่น และตรวจสอบพบการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำพลูคาว คอลดาต้า ซึ่งได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจวิเคราะห์หาตัวยาและสเตียรอยด์ ณ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หากพบการปลอมปนยาหรือสารอันตราย มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นพ.สุรโชค กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังพบเอกสารเผยแพร่การโฆษณาสรรพคุณ คุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ อย. จึงเก็บหลักฐานทั้งหมดเพื่อประกอบการดำเนินคดี โดยหากพบเป็นการโฆษณาสรรพคุณ คุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท และหากพบการแสดงคุณภาพ สรรพคุณ คุณประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมที่ทำให้เข้าใจว่ามีผลในการรักษา บำบัด บรรเทา รักษาโรค จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และจะพิจารณาเพิกถอนเลขสารบบอาหารต่อไป ดังนั้น ขอให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคทางตา โดยเฉพาะผู้สูงอายุ อย่าหลงเชื่อไปใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าว ซึ่งไม่มีสรรพคุณในการรักษาตามมาตรฐานทางการแพทย์ อาจทำให้โรคตาที่เป็นอยู่มีความรุนแรงขึ้น ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาจากจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง