“เสี่ยลภ”ปฏิเสธยิง “น้องเนิส”

2018-09-06 19:25:47

“เสี่ยลภ”ปฏิเสธยิง “น้องเนิส”

Advertisement

“เสี่ยลภ” ผู้ต้องหายิง “น้องเนิส” เสียชีวิตคารถป้ายแดงยังให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 ก.ย. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. เดินทางไปยัง จ.นครปฐม เพื่อสอบปากคำนายวัลลภ ห้วยหงส์ทอง หรือ “เสี่ยลภ” ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิง น.ส.นภธร กนกเกษมโสภณ หรือ น้องเนิส อดีตแฟนสาว เสียชีวิตในรถยนต์เก๋ง ฮอนด้า ซิตี้ ทะเบียนป้ายแดง เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา บนถนนสายนาสร้าง – นาขุม หมู่ที่ 5 ต.นครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม



รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ ซึ่งก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหาท่ามารถทำได้ แต่ตำรวจก็มีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะหลักฐานทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อจะได้นำประกอบสำนวนสอบสวน ส่งอัยการและส่งฟ้องศาลต่อไป ส่วนเรื่องการทำแผนประกอบคำรับสารภาพต้องยกเลิกไป เนื่องจากผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ สำหรับการประกันตัว จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ แต่หากผู้ต้องหาต้องการจะประกันตัวนั้น ก็สามารถทำได้ แต่ก็ต้องอยู่ในดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน อาจจะไม่ให้ประกันตัว




ด้าน พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม (ผบก.ภ.จว.นครปฐม) เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการสอบสวนผู้ต้องหาอย่างเป็นทางการ เนื่องจากคดีนี้มีอัตราโทษสูง การสอบสวนจะต้องดำเนินการต่อหน้าทนายความ เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ อย่างไรก็ตามการควบคุมผู้ต้องหา พนักงานสอบสวนมีอำนาจควบคุมตัวได้ 48 ชั่วโมง



พล.ต.ต.คำรณ กล่าวต่อว่า สำหรับการมอบตัวของผู้ต้องหาเมื่อคืนวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา ได้ไปพบกับผู้ใหญ่ที่ผู้ต้องหาให้ความเคารพ เจรจาจนนำไปสู่การมอบตัว โดยนัดหมายกับที่จ.กาญจนบุรี ช พร้อมนำอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุมามอบให้กับตำรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบปากคำในเบื้องต้น ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม สอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนเรื่องอาวุธปืน เจ้าตัวให้การว่า ซื้อมาจากบุคคลอื่น เป็นปืนซื้อมาจากต่างประเทศ ไม่มีทะเบียน ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นลงความเห็นร่วมกันเชื่อว่า น่าจะเป็นปืนกระบอกเดียวกันกับที่ใช้ก่อเหตุ ทั้งนี้จะต้องรอผลพิสูจน์จากศูนย์พิสูจน์หลักฐานภาค 7 ก่อน ในส่วนของรถที่ใช้ในวันก่อเหตุเบื้องต้นทราบว่าเป็นรถของพี่ชาย ทางตำรวจก็จะต้องนำมาประกอบการดำเนินคดี ส่วนเรื่องการปฏิเสธของผู้ต้องหา ถึงเวลานี้ตำรวจเชื่อว่าสามารถรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุได้อย่างแน่นอน