จบเรื่องราวดราม่ากับอดีตแฟนสาว "มิ้ง – ศวภัทร" สำหรับ "กัปตัน – ชลธร คงยิ่งยง" ล่าสุด เจ้าตัวเดินทางมาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวละคร "เลือดข้นคนจาง" เลยสอบถามถึงเรื่องราวที่จบลงได้อย่างสวยงามไปเมื่อวันก่อน โดยเจ้าตัวได้เปิดใจว่า
ตอนนี้ทุกอย่างคลี่คลายแล้วเป็นไงบ้าง?
วันนี้เป็นวันแรกที่ได้ออกงาน หลังจากไม่ได้ออกมานานพอสมควร ดีใจครับที่ได้ออกมางานแล้วเจอกับผู้คน เจอเพื่อนๆ พี่ๆ แฟนคลับทุกคนครับ
เครดิตตามภาพ
ช่วงแรกเก็บตัวใช่ไหม ...ไม่กล้าไปไหนเลยหรอ?
ผมแค่รู้สึกว่า ผมไปนั่งคิดทบทวนกับตัวเองมากกว่า หลายสิ่งที่เกิดขึ้น ผมอยากเรียนรู้ด้วยตัวเองมากกว่า
ไปปฏิบัติธรรมมาได้ข้อคิดอะไรกลับมาบ้าง?
คือเหมือนได้ข้อคิดอะไรหลายๆ อย่าง เรามีสิ่งที่ต้องตั้งใจทำเช่นการทำงาน เราก็ต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะทำอะไร
เมื่อวานไปปล่อยปลามากับเจเจมาด้วย?
มีโปรเจกต์ใหม่ครับกับเจเจและต้าเหนิง ก็อยากให้รอติดตาม เป็นโปรเจกต์พิเศษดีๆ อีกหนึ่งโปรเจกต์น่าจะเดือนนี้จะได้เห็นกัน
ไปทำบุญหรือไปแก้บนอะไร?
ไม่ได้ทำครับ
เครดิตตามภาพ
ย้อนกลับไปตอนนั้นเราจัดการกระบวนการความคิดของเราอย่างไร?
ก็คงนอยด์ๆ แหละเอาจริง ก็แบบกลับไปคิดทบทวนกับตัวเองว่าอะไรที่เราผิดพลาดไป เรากลับไปแก้ไม่ได้ แต่เราต้องทำข้างหน้าต่อไปอย่างระมัดระวังมากที่สุด
ช่วงที่มีข่าวแรกๆ เครียดหรือซึมๆ บ้างไหม?
ซึมๆ แหละ แต่ไม่ได้ซึมเศร้า
ได้ปรึกษาหมอไหม?
ไม่ได้ปรึกษาครับ
เครดิตตามภาพ
ช่วงนั้นมันยากต่อการทำงานไหม?
ก็ยากนะครับ เพราะว่ามันเกิดอะไรหลายๆ อย่าง เปลี่ยนแปลงไปกับผมเยอะเหมือนกัน การที่เราแบบอยู่บนเส้นด้ายเนอะ จริงๆ ก็มีความคิดเหมือนกัน เหมือนเหนื่อย เหมือนท้อ
คิดอยากออกจากวงการไหม?
มันก็มีความคิดเล็กๆ แหละ เวลาท้อมันก็จะมีความคิดอะไรแบบนี้ แต่เรารู้สึกว่าเราชอบและเรารักผลงานและอยากจะผลิตผลงานดีๆ ออกมา เรามีเพื่อนๆ เรามีพี่ๆ เรามีผลงานที่ตั้งใจทำออกมา ให้ทุกคนรอติดตามนะครับ
ตอนนั้นเราให้กำลังใจตัวเองอย่างไรบ้าง?
ไม่ค่อยได้ให้ ส่วนมากดูยูทูบ วันๆ อ่านหนังสือ มันก็รู้สึกไม่ต้องคิดอะไรเยอะเหมือนกันแค่จดจ่อกับสิ่งที่ทำครับ
ช่วงที่เราโพสต์ทวิตเตอร์ "มิ้งโป๊ะแตก" ทุกอย่างกระจ่างแล้วใช่ไหม?
เรื่องวันนั้นอ่ะจริงๆ แล้วผมไปวัดพอดีและผมกำลังทำกิจอยู่ แล้วผมก็เปิดทวิตเตอร์พอดี แล้วผมก็หนีบไว้ แล้วมันก็คงขยับไง เห็นอะไรไม่รู้แล้วแว่บๆ (ยิ้ม) ขอให้ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ (หัวเราะ) พอไปดูมันก็เป็นแบบ...
หลายคนคิดว่าเรารู้ความจริงแล้ว?
พูดไม่ได้หรอกว่าเรารู้ความจริงหรือไม่รู้ เราแค่รู้สึกว่า... ณ ตอนนั้นเราต้องปล่อยวางแหละครับ อยากให้ชีวิตสงบ
ตั้งแต่ปฏิบัติธรรมได้อะไรมาบ้าง?
ได้การปล่อยวาง ปล่อยความคิดอะไรบางอย่าง การอยู่กับธรรมชาติ เราไม่สามารถกำหนดอะไรหลายๆ อย่างได้ ถ้ามีอะไรที่เกิดกับเรา เรายอมรับและสู้ต่อไป ในอนาคตมีอะไรอีกเยอะมากมายที่รอเราอยู่
วันนี้แฟนคลับมาให้กำลังใจเราหนาแน่นมาก ?
ดีใจนะครับ ดีใจที่ได้เจอคนที่เคยอยู่กับเรา แล้วเราไม่ได้เจอเขา วันนี้เหมือนวันแรกที่ได้มาเจอ เจอพี่นักข่าวทุกคนที่ไม่ได้เจอมานาน
แฟนคลับยังให้กำลังใจตลอด ทั้งๆ ที่รู้ว่าข่าวไม่จริง?
มันก็ตัดสินไม่ได้หรอกว่าจริงหรือไม่จริง แต่สุดท้ายมันจบลงได้ด้วยดี ก็คงเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ให้ความคิดอะไรกับผมครับ
ทุกอย่างมันคลี่คลายเหมือนกับว่าเป็นการคืนความสุขให้กับเรา?
คือเราคงไม่ได้คิดไปถึงอนาคตหรอก ว่าตอนนี้มีความสุขผมรู้สึกว่าเราแค่รู้สึกว่าได้ทำงานในสิ่งที่เรารัก แค่ดำเนินชีวิตในแบบที่เราอยากจะเป็น มันทำให้เรารู้สึกมีความสุขแล้ว คงหาความสุขกับตัวเองครับ
เครดิตตามภาพ
ที่ผ่านมาเราไม่ได้ออกงานหรือทางต้นสังกัดไม่ให้ออก?
ผมว่ามันยังไม่ถึงเวลามั้ง
ล่าสุดมิ้งค์เหมือนไม่จบ และตอบคอมเมนต์เพื่อนว่ามันยังมีเบื้องหลังอีก?
สำหรับผมมันจบในหน้าที่ของผมแล้ว หลังจากนี้ต่างคนก็มีทางเดินของตัวเองที่ต้องเดินต่อไป ผมมีหน้าที่การงานที่ต้องทำต่อ แล้วเขาก็มีอะไรหลายๆ อย่างที่ต้องทำต่อ ก็อยากให้จบลงด้วยดีแหละ
ถ้าอีกฝ่ายไม่จบเราจะใช้มาตรการอะไรไหม จะฟ้องหรือไม่ฟ้องยังไง?
สำหรับผม ณ ตอนนี้มันเคลียร์ทุกอย่างที่ค้างในใจผมเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่ได้รู้สึกแย่หรืออะไร เขาคงเป็นแค่คนรู้จักกันครับ
หลังจากไกล่เกลี่ยแล้วเราโอเคแล้วใช่ไหม?
โอเคแล้วครับ เราได้รับรู้ความจริง เราได้อะไร แค่นี้มันก็สบายใจ
ในข้อไกล่เกลี่ยมีห้ามพูดถึงเราบ้างไหม?
ไม่มีขนาดนั้น
คุณพ่อคุณแม่ว่าอย่างไรบ้างหลังจากที่คุณแม่เองเครียดมานาน?
ครับ แม่ก็เครียดมานานเราก็ได้แต่ให้กำลังใจกัน
หลังจากนี้การใช้ชีวิตของเราต้องระมัดระวังมากขึ้นแค่ไหน?
ก็ต้องมีสติมากขึ้น เพราะเราไม่รู้หรอกวันหนึ่งที่เราจะพลาดไป เราก็อยากทำอะไรให้พลาดน้อยที่สุด เราไม่รู้หรอกว่าเราจะพลาดลงไป แต่เราต้องมีสติให้มากที่สุดครับ
