ที่ดินประจวบฯยันเขาช่องกระจกไร้เอกสารสิทธิ์ครอบครอง

2018-09-05 16:35:09

ที่ดินประจวบฯยันเขาช่องกระจกไร้เอกสารสิทธิ์ครอบครอง

Advertisement

สำนักงานที่ดินประจวบคีรีขันธ์ยันเขาช่องกระจกไร้เอกสารสิทธิ์ครอบครองถือเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน

จากกรณี ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ สั่งตั้งกรรมการสอบหาข้อเท็จจริงเพื่อหาหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบดูแลที่ดินบนช่องกระจก ภายหลังต้นพระศรีมหาโพธิ์ทรงปลูกอายุ 60 ปีบริเวณจุดชมวิวด้านทิศตะวันออกบนเขาช่องกระจกถูกตัดโค่นถอนรากถอนโคน



เมื่อวันที่ 5 ก.ย. นายพงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร รอง ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการครอบครองที่ดินบนเขาช่องกระจก เปิดเผยว่าจะดำเนินการสอบหาข้อมูลเพื่อรายงานให้ ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ ทราบภายใน 15 วัน โดยสอบข้อมูลย้อนหลังว่าวัดธรรมิการามวรวิหาร ครอบครองที่ดินบนเขาช่องกระจกเมื่อใด มีการแจ้งเพื่อขอใช้ประโยชน์หรือไม่ และหน่วยงานใดเป็นผู้รับผิดชอบ หลังจากคณะกรรมการชุดแรกที่ได้รับแต่งตั้งจาก ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อให้สรุปภายใน 48 ชั่วโมง หลังมีการตัดโค่นต้นศรีมหาโพธิ์ เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา มีการประชุมหลายครั้งแต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ทั้งนี้คณะกรรมการฯจะสืบค้นข้อมูลเดิม เนื่องจากมีการตั้งวัดธรรมิการามวรวิหาร วันที่ 26 มิ.ย.2465 โดยตรวจสอบเอกสารหลักฐานเดิมจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ รวมทั้งประสานกรมแผนที่ทหารเพื่อขอตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศแสดงการใช้ประโยชน์





ด้าน นางรสริน สุภาพ หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ สำนักงานที่ดินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบสาระบบที่ดินพบว่าวัดธรรมิการามวรวิหาร ครอบครองที่ดิน 95 ไร่ 3 งาน 60 ตารางวาทั้งคณะเหนือและคณะใต้ มีที่ดินธรณีสงฆ์จำนวน 10 แปลง สำหรับพื้นที่เขาช่องกระจกไม่พบหลักฐานการขอใช้ประโยชน์ ไม่มีเอกสารสิทธิ์ครอบครองจากบุคคลหรือนิติบุคคลรายใด หลังประกาศใช้ประมวลกฎหมายที่ดินเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2497 แต่เจ้าอาวาสวัดได้ให้ถ้อยคำว่ามีผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ มอบพื้นที่ให้วัดดูแล ดังนั้นวัดจะต้องหาหลักฐานแสดงการใช้ประโยชน์บนเขาช่องกระจกเพื่อยืนยันและต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าใช้ประโยชน์ หากไม่มีหลักฐาน ถือว่าเขาช่องกระจกเป็นที่รกร้างว่างเปล่า เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484